"ที่สุด" ของทุกสถิติกับ 13 แข้งในยูโร 2016 (ตอน1)



           ปิดฉากลงไปแล้วอย่างสมบูรณ์สำหรับศึกยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส ทัวนาเมนต์แห่งความชอกช้ำระกำทรวงของเจ้าภาพ ที่ทำได้แค่รองแชมป์ ตรงกันข้ามกับรอยยิ้มแห่งความชื่นมื่นยินดีของขุนพลฝอยทอง ที่สร้างความยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ได้เป็นครั้งแรก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือธรรมชาติของกีฬา "ฟุตบอล" ที่มีหลากหลายรสชาติให้แฟนบอลอย่างเราได้สัมผัสและอินไปกับมัน หลังจบทุกรายการแข่งขัน สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือการบันทึกสถิติต่างๆไว้ประมวลความทรงจำ ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปครั้งนี้ก็เช่นกัน มีนักเตะ 13 คนไม่ซ้ำหน้ากันสร้างสถิติแห่งความเป็น "ที่สุด" ให้เราได้จดจำกัน ไปดูกันว่าเขาเหล่านั้นคือใครกันบ้างครับ

เซฟมากที่สุด : ฮันเนส ธอร์ ฮัลดอร์สสัน (ไอซ์แลนด์)



         แม้นายทวารรายนี้ จะไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้แม้แต่นัดเดียว แต่เขาคือเจ้าของสถิติเซฟมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์ โดยสถิติเซฟไปทั้งหมด 27 ครั้ง จากการลงสนาม 5 นัด พาไอซ์แลนด์ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้แบบช็อคโลก จากการชนะอังกฤษ 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย สำหรับเกมที่เขาพีคสุดคือเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ที่เสมอกับโปรตุเกส 1-1 ฮัลดอร์สสันเซฟได้ถึง 8 ครั้ง และทำให้ CR7 จบเกมโดยไม่มีประตู ดูบอลสด

เคลียร์บอลทิ้งมากที่สุด : คามิล กลิค (โปแลนด์)


         
         ปราการหลังป้ายแดงของโมนาโก คือจอมเคลียร์ขาดตัวจริง จากผลงานลงสนาม 5 นัดช่วยให้โปแลนด์ทะลุสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยไม่เสียประตูเลยในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเจ้าตัวช่วยสกัดบอลทิ้งได้ไม่ต่ำกว่านัดละ 9 ครั้ง รูปแบบการสกัดมีทั้งการหวดตูมเดียว และโหม่งสกัดออกมา ซึ่งเขาทำได้รวมกันถึง 52 ครั้งตลอดทัวนาเมนต์ ทำให้กลิคคือเซ็นเตอร์แบ็คที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของยูโรครั้งนี้
     
ทำฟาวล์มากที่สุด : เจา มาริโอ (โปรตุเกส)


        ปีกเทคนิคแพรวพราวของทัพฝอยทองคนนี้ คือนักเตะที่ทำฟาวล์คู่แข่งมากที่สุดถึง 16 ครั้ง สาเหตุที่เป็นเช่นนนั้น เพราะแท็กติกของโปรตุเกสที่เน้นวางบอลยาวแบบฉาบฉวย และเขาคือนักเตะที่มีโอกาสเสียการครองบอลมากที่สุด เพราะต้องใช้ความเร็วกระชากบอลหนีคู่แข่ง เมื่อเสียการครองบอล จึงต้องรีบตัดเกมก่อนที่บอลจะทะลุถึงแดนหลังนั่นเอง 

เปอร์เซ็นต์ล้ำหน้ามากที่สุด : ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (สวีเดน)


       ศูนย์หน้าแกะกล่องของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำสถิติล้ำหน้าถึง 8 ครั้ง จาก 3 นัดที่ลงสนาม เฉลี่ยล้ำหน้านัดละเกือบ 3 ครั้ง ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดในทัวนาเมนต์นี้ หากสวีเดนไม่ตกรอบแรกไปเสียก่อน คาดว่าสถิติของเขาจะเพิ่มมากขึ้นไปอีก สาเหตุหลักคาดว่าน่าจะมาจากอายุที่มากขึ้นด้วยวัย 34 ปี ทำให้การเคลื่อนที่ช้าลง เช็คไลน์เพื่อหลุดกับดักล้ำหน้าไม่ทัน แต่อีกแง่หนึ่งสถิตินี้ก็บ่งบอกว่า แนวรับทุกทีมไม่กล้าปะทะกับเขาโดยตรง จึงใช้วิธีดักล้ำหน้ามารับมือโดยเฉพาะ

แย่งบอลได้มากที่สุด : เจมส์ เชสเตอร์ (เวลส์)


      แบ็กขวาจากเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน คือหัวใจสำคัญในเกมรับของเวลส์ ทำสถิติแย่งบอลได้ถึง 19 ครั้ง เท่ากับเปเป้ของทีมแชมป์โปรตุเกส แต่เชสเตอร์เหนือกว่า เพราะทีมของเขาไม่ได้เข้าชิง และทุกเกมที่ลงสนามไม่มีการต่อเวลาพิเศษเลยแม้แต่เกมเดียว ต่างจากฟอร์มของเปเป้ที่ได้เข้าชิงชนะเลิศ แม้เซ็นเตอร์แบ็คของราชันย์ชุดขาวจะไม่ได้ลงสนามในเกมรอบตัดเชือก ที่ชนะเวลส์ 2-0 แต่นัดที่เขาอยู่ในสนามมีถึง 3 เกมที่ต้องเล่นต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ จึงทำให้ค่าเฉลี่ยการแย่งบอลต่อนาทีเป็นของเชสเตอร์ ที่ทำผลงานได้ดีกว่า ดูบอลสด

ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุด : โทนี่ โครส (เยอรมัน)


        มิดฟิลด์จากรีล มาดริด คือเจ้าของ 2 สถิติยอดเยี่ยมในการผ่านบอล โดยเป็นนักเตะที่ผ่านบอลมากที่สุดถึง 630 ครั้ง และเป็นการผ่านบอลสำเร็จถึง 581 ครั้ง (ประมาณ 92%) คำว่า "ผ่านบอลสำเร็จ" หมายถึง ถ้าคุณตัดสินใจปล่อยบอลออกจากเท้าไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการผ่านสั้นๆ หรือวางบอลยาว มันต้องไปถึงเพื่อนร่วมทีม โดยที่ไม่ถูกสกัดหรือว่าออกหลังออกข้างไปซะก่อน จากสถิตินี้ทำให้เพื่อนร่วมทีมสามารถเล่นจังหวะต่อไปได้มากมายหลายครั้ง จากค่าเฉลี่ยที่สูงมากนี้ ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ผ่านบอลได้ดีที่สุดในโลกในเวลานี้ 

วิ่งเร็วที่สุด : คิงสลี่ย์ โกมอง (ฝรั่งเศส)


          แนวรุกตัวจี๊ดความเร็วสูงจากบาเยิร์น มิวนิค รายนี้ คือนักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดด้วยสถิติ 32.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากการบันทึกข้อมูลของยูฟ่า เฉือนชนะ ยานนิค คาร์ราสโก้ ของเบลเยี่ยมที่ทำได้ 32.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปนิดเดียว โดยใน 5 อันดับแรกนั้น ไม่ปรากฎชื่อแข้งดังความเร็วสูงอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, แกเร็ธ เบล หรือเจมี่ วาร์ดี้ อยู่เลย

ว่าน สวนไทร      
  



ความคิดเห็น