แฮร์แบตี้ เฟอร์นันเดส

มาอย่างคนธรรมดา...จากไปอย่างตำนาน



       

          คงไม่มีใครคิดว่านักเตะโนเนมธรรมดาๆจากบราซิลคนหนึ่ง จะสร้างปรากฎการณ์ด้วยการระเบิดฟอร์มทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ จนกลายเป็น 1 ตำนานนักเตะต่างชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก แฮร์แบตี้ เฟอร์นันเดส เริ่มสร้างชื่อกับ เธียสป้า คูซัตซู ทีมลีกรองของญี่ปุ่น เมื่อปี 2012 จนไปเข้าตาทีมดังอย่างเจลีก เซเรโซ โอซาก้า คว้าตัวไปร่วมทีมในปีต่อมา แต่หากดูผลงานโดยรวมก่อนย้ายร่วมทัพ “ราชันมังกร” ของเขาแล้ว ถือว่าไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย เพราะเขาร่วมทีม เวกัลตะ เซนได ไป 16 นัด แต่ทำประตูให้ทีมได้แค่ลูกเดียวเท่านั้น


 
          แต่ฟอร์มก็เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้บริหารทีม ที่มองเห็นถึงฝีเท้าอันแพรวพราว การแอสซิสต์ที่แม่นยำ และเครื่องหมายการค้าของเขาคือ "เท้าซ้าย" อันทรงพลัง จึงตัดสินใจคว้าตัวมาร่วมทีมเมื่อต้นปี 2014 โดยเขาเปิดตัวได้ยอดเยี่ยมด้วยการทำประตูได้ในเกมที่บุกไปเอาชนะสุพรรณบุรี เอฟซี 2-1 ซึ่งเป็นนัดเปิดฤดูกาล จากนั้นก็ผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะมาจากเท้าซ้ายข้างถนัด โดยรูปแบบที่เราเห็นกันบ่อยสุดคือ ลูกฟรีคิกและยิงไกลจากนอกกรอบ ดูบอลสด แฮร์แบตี้คว้ารางวัลดาวซัลโวไทยลีกมาแล้วในปี 2014 จากผลงาน 26 ประตู เขาคือยอดนักเตะระดับตำนานของทีมราชันย์มังกรอย่างแท้จริง เป็นที่รักของแฟนบอลตลอดมา แต่วิถีของฟุตบอลยังคงดำเนินต่อไป เมื่อมีพบก็มีจาก งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา


 
        ฟอร์มอันร้อนแรงคงที่ของเขากลายเป็นที่สนใจจากทีมดังลีกซาอุดิอาระเบีย "อัล ชาบ๊าบ" สุดท้ายข่าวลือก็เป็นจริงตามคาด เมื่อดาวยิงแซมบ้าตัดสินใจโบกมือลาไปหาความท้าทายครั้งใหม่ มีการประมาณกันว่าค่าสัญญาอาจสูงถึง 80 ล้านบาท แต่ก็ไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการออกมายืนยัน  เขาลงสนามเกมสุดท้ายให้ทีมในการพบกับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยทำได้ 1 ประตู ช่วยให้ต้นสังกัดเอาชนะไปได้ 3-1 ประเดิมสนามมิตรผล สเตเดี้ยมได้อย่างยิ่งใหญ่ และปิดฉากตำนาน "เทพเจ้าหมายเลข 37" ด้วยผลงานสุดติ่งกระดิ่งแมวยากที่ใครจะทำได้อีก เพราะทำได้ถึง 75 ประตู จาก 103 นัดรวมทุกรายการ ในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ดูบอลสด
          ก่อนจากลา แฮร์แบตี้ได้กล่าวกับแฟนบอลด้วยน้ำตาคลอเบ้าเป็นภาษาไทยว่า 

“สวัสดีครับ ขอบพระคุณครับ ผมขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ผมมีความสุขอย่างมากตลอดการค้าแข้งที่นี่ และผมหวังสักวันที่จะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง” 

ว่าน สวนไทร

      

ความคิดเห็น