ทวีปเดียวกัน! 10 แข้งเอเชียค่าตัวแพงสุด (ตอน1) โดยดูบอลสด

ทวีปเดียวกัน! 10 แข้งเอเชียค่าตัวแพงสุด (ตอน1)


ทวีปเดียวกัน! 10 แข้งเอเชียค่าตัวแพงสุด (ตอน1) โดยดูบอลสด

     ไฮไลท์ของตลาดค้าแข้งซัมเมอร์นี้พุ่งตรงไปที่ข่าวของ พอล ป๊อกบา ว่าที่แข้งค่าตัวแพงสุดในโลกคนใหม่ เป็นเรื่องปกติที่การย้ายทีมของแข้งดังชาวเอเชียถูกสนใจน้อย เว็บดูบอลสดขอเสนอข้อมูลที่สุดของค่าตัวนักเตะภูมิภาคเดียวกับเราดังนี้  

10. ตง ฟาง โจว (ปี 2004)


ทวีปเดียวกัน! 10 แข้งเอเชียค่าตัวแพงสุด (ตอน1) โดยดูบอลสด

      ย้ายจาก ต้าเหลียน ซื่อเต๋อ ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
      ค่าตัว : 3.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 156 ล้านบาท)
        แข้งรายแรกจากเอเชียตะวันออกที่ได้ย้ายไปร่วมทัพปีศาจแดงเมื่อปี 2004 แต่ในช่วงแรกนั้นเจ้าตัวยังไม่ได้ใบอนุญาตทำงาน ทำให้ถูกส่งตัวไปให้กับทีมในลีกรองเบลเยี่ยมอย่างรอยัล อันท์เวิร์ป ยืมตัวไปใช้งานชั่วคราว ผลงาน 7 ประตู จาก 22 เกม ในฤดูกาล 2004/05 แม้จะเป็นเพียงลีกดิวิชั่น 2 ก็ถือว่าใช้ได้ก่อนที่จะกลับมาแมนเชสเตอร์  แต่ก็ถูกต้นสังกัดปล่อยยืมตัวกับสโมสรเดิมอีกครั้ง คราวนี้ระเบิดฟอร์มหรูกว่าเก่าด้วยการซัลโวไป 18 ประตู คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของลีกและของทีม โดยเป็นการซัดแฮตทริกได้ถึง 2 ครั้งอีกด้วย จนกระทั่งในเดือนธันวาคมปี 2006 เขาก็ได้เวิร์กเพอร์มิตและกลับมาอยู่กับต้นสังกัดที่แท้จริง พร้อมผลงานการพังประตูชัยให้ทีมเอาชนะไกเซอร์ ชีฟส์ 1-0 ในการเล่นเกมปรีซีซั่น ทำให้ป๋าเฟอร์กี้ถึงกับออกปากชมว่าเขาเป็นนักเตะที่มีทั้งความเร็วและความแข็งแกร่ง
        แม้ว่าสุดท้ายแล้วชีวิตในโรงละครแห่งความฝันจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เจ้าตัวก็ได้ชื่อว่าเป็นนแข้งแดนมังกรรายที่ 2 ต่อจาก ซุน เซียง ที่ได้สัมผัสเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในซีซั่น 2007/08 ที่ปีศาจแดงพบโรม่า โดยลงสนามเป็นสำรองแทนที่ เวย์น รูนี่ย์ ในนาทีที่ 72 หลังจบซีซั่นนั้นเขาก็ถูกปล่อยตัวกลับต้นสังกัดเดิมในบ้านเกิดที่จากมา แต่ว่าไม่สามารถเค้นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมกลับมาได้ และได้ตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2014


9. ปาร์ค ชี ซอง (ปี 2010)

ทวีปเดียวกัน! 10 แข้งเอเชียค่าตัวแพงสุด (ตอน1) โดยดูบอลสด

      ย้ายจาก พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
      ค่าตัว : 4.5 ล้านยูโร (ประมาณ 180 ล้านบาท)
      เขาคือหนึ่งในแข้ง "โสมขาว" ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติเกาหลีใต้ โดยเจ้าตัวเป็น 1 ใน 8 นักเตะที่ติดทีมชาติเกิน 100 นัด หลังจากสร้างชื่อด้วยการเป็นตัวหลักในฟุตบอลโลก 2002 ภายใต้การคุมทีมของ กุส ฮิดดิ้งค์ หลังจบทัวนาเมนต์นั้น เทรนเนอร์ชาวดัตช์ก็โยกไปคุมพีเอสวี หนึ่งปีให้หลังก็จัดการดึงตัวเขาไปร่วมทีม และที่ฮอลแลนด์นี่เองก็ทำให้สตาร์ชาวเกาหลีใต้รายนี้ก้าวขึ้นมาหนึ่งในนักเตะที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในยุโรป โดยเฉพาะในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2004/05 ที่ช่วยให้ทีมทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือก ก่อนแพ้ต่อเอซี มิลาน ไปด้วยกฎประตูทีมเยือนอย่างน่าเจ็บใจ แต่ด้วยผลงานอันสุดยอด ส่งให้ปาร์คถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลศูนย์หน้ายอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ เคียงข้าง อังเดร เชฟเชนโก้, อาเดรียโน่, ซามูเอล เอโต้ และ โรนัลดินโญ่
       ผลงานแชมป์ลีกดัตช์ 2 สมัย บวกกับ ดัตช์ คัพ และดัตช์ ซูเปอร์ คัพ อีกรายการละ 1 สมัย ทำให้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าตัวเขามาร่วมทีม เขาจารึกชื่อตัวเองว่าเป็นแข้งเอเชียรายแรกที่รับหน้าที่กัปตันทีมปีศาจแดง หลังลงสนามไปแทน ไรอัน กิ๊กส์ ในเกมยูซีแอลรอบแบ่งกลุ่ม ปาร์คทำผลงานกับยูไนเต็ดได้ดีอย่างสม่ำเสมอ สโมสรจึงมอบสัญญาฉบับใหม่ให้เจ้าตัวอยู่กับทีมไปจนถึงปี 2012 ประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, คอมมิวนินิตี้ ชิลด์ 3 สมัย รวมถึงรายการใหญ่อย่าง สโมสรโลก และเป็นผู้เล่นเอเชียคนแรกที่ได้ชูถ้วยแชมป์สโมสรยุโรปในปี 2008 อีกด้วย

8. ไคซึเกะ ฮอนดะ (ปี 2010)

ทวีปเดียวกัน! 10 แข้งเอเชียค่าตัวแพงสุด (ตอน1) โดยดูบอลสด

    ย้ายจาก วีวีวี เวนโล่ ไป ซีเอสเคเอ มอสโก
    ค่าตัว : 6 ล้านยูโร (ประมาณ 240 ล้านบาท)
     ฮอนดะค่อยๆสร้างชื่อขึ้นมาเรื่อยๆ เริ่มต้นจากทีมขนาดเล็ก จนก้าวมาเป็นสมาชิกสโมสรใหญ่ในปัจจุบัน ร่วมทีม วีวีวี เวนโล่ ในปี 2007 เจ้าตัวมีส่วนช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดของฮอลแลนด์ได้สำเร็จ ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับซีเอสเคเอ มอสโก ในรัสเซีย ซึ่งเป็นสถานที่แจ้งเกิดเต็มตัวของเขา โดยเฉพาะอาวุธเด็ดในเรื่องของฟรีคิก และยังมีโอกาสได้เล่นในรายการใหญ่อย่างถ้วยบิ๊กเอียร์อีกด้วยนับว่าเป็นการเลือกทีมที่ไม่เลวเลย แม้ว่าจะดูว่าพลิกโผและเป็นฟุตบอลที่ห่างไกลสายตาแฟนๆ ที่ไม่ได้อยู่ในแดนหมีขาว แต่ฟุตบอลยุโรปก็เป็นสังเวียนชั้นดีในการพัฒนาฝีเท้าของเขา โดยกวาดแชมป์เรียบทั้งแชมป์ลีก, รัสเซีย คัพ และ ซูเปอร์ คัพ
    แต่สุดท้ายวิถีฟุตบอลก็ดำเนินไป ฮอนดะตัดสินใจโบกมือลายอดทีมแห่งรัสเซีย ด้วยการย้ายไปร่วมทีมเอซี มิลาน แบบไม่มีค่าตัวหลังหมดสัญญากับทีม โดยเพลย์เมกเกอร์เลือดซามูไรสวมเสื้อหมายเลข 10 ของทีม และได้เล่นร่วมกับกาก้า สตาร์ชาวบราซิเลี่ยน ถือเป็นการได้เรียนรู้กับยอดนักเตะระดับโลก น่าเสียดายที่ฮอนดะมาอยู่กับ ''ปีศาจแดง-ดำ'' ในช่วงที่ขาลงสุดๆ แต่การได้มาเล่นในอิตาลีก็ถือเป็นการสานฝันในอาชีพนักเตะของตัวเขาได้เป็นอย่างดี ดูบอลสด

7. คี ซุน ยอง (ปี 2012)

ทวีปเดียวกัน! 10 แข้งเอเชียค่าตัวแพงสุด (ตอน1) โดยดูบอลสด
    
      ย้ายจาก กลาสโกว์ เซลติก ไป สวอนซี ซิตี้ 
     ค่าตัว : 8.2 ล้านยูโร (ประมาณ 328 ล้านบาท)
     เริ่มเป็นที่รู้จักกับทีม "ม้าลายเขียวขาว" กลาสโกว์ เซลติก โดยก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีม ก่อนย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษกับสโมสรระดับกลางตารางอย่าง สวอนซี ซิตี้ ความดีความชอบทั้งหมดต้องยกให้ผู้เป็นบิดาที่ปลูกฝังเขาตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยการส่งไปเรียนที่แดนจิงโจ้ขณะวัยเพียง 12 ปี ทำให้เขาได้เรียนรู้ทั้งภาษาอังกฤษและเล่นฟุตบอลไปในตัว เขาตัดสินใจกลับบ้านเกิด และเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลเต็มตัวในปี 2006 กับ เอฟซี โซล ก่อนย้ายข้ามทวีปเล่นกับเซลติกในปี 2009 ฝึกฝนวิชาจนขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชนิดที่ นีล เลนน่อน กุนซือของทีมยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในแข้งคนสำคัญของทีม 
    ผลงานโดดเด่นมาก จนทำให้ทีมหงส์ขาวยอมทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรคว้าตัวมาร่วมทีม (ก่อนโดน วิลฟรีด โบนี่ ทำลายในเวลาต่อมา) ในปี 2012 แม้ระยะแรกผลงานยังไม่เข้าที่ แต่ก็ช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีก คัพ มาครองได้สำเร็จ ก่อนถูกส่งให้ซันเดอร์แลนด์ยืมตัวไปใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล (2013/14)  และที่นี่เองทำให้เขาคืนฟอร์มได้อีกครั้ง โดยเฉพาะในรายการลีก คัพที่ถูกโฉลกกันเหลือเกิน โดยเป็นฮีโร่ยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษให้ทีมพลิกชนะเชลซี 2-1 ในรอบที่ 5 ก่อนที่รอบตัดเชือกจะช่วยให้ทีมโค่นปีศาจแดงในการดวลจุดโทษ พาทีมแมวดำเข้าชิงได้สำเร็จ แต่ไปพ่ายทีมเรือใบสีฟ้า 1-3 ทำได้แค่รองแชมป์ เมื่อเขากลับไปร่วมทัพหงส์ขาวอีกครั้ง ก็ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวเลือกในทีมชุดแรกแบบเต็มตัวมาจนถึงปัจจุบัน 

6. ชินจิ โอกาซากิ (ปี 2015)    

ทวีปเดียวกัน! 10 แข้งเอเชียค่าตัวแพงสุด (ตอน1) โดยดูบอลสด
    
      ย้ายจาก ไมน์ 05 ไป เลสเตอร์ ซิตี้  
     ค่าตัว : 9.5 ล้านยูโร (ประมาณ 380 ล้านบาท)
     เริ่มต้นค้าแข้งกับชิมิสึ เอสพัลส์ ในบ้านเกิด ก่อนจะพัฒนาตัวเองจากดาวรุ่งธรรมดาขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวหลักของสโมสร ซึ่งผลงานในเจลีกแต่ละซีซั่นถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ สถิติผลงาน 49 ประตูจาก 154 เกม ก่อนจะถูกสตุ๊ตการ์ท ในบุนเดสลีกาเยอรมันดึงตัวไปร่วมทีม  ระยะเวลา 2 ปีครึ่งกับทีม ''ม้าขาว'' ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เมื่อดูจากองค์ประกอบของทีมและการได้เป็นศูนย์หน้าตัวหลัก จำนวนประตูอาจไม่ได้มากมาย แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในยุโรป จนกระทั่งไมนซ์ 05 ทีมร่วมลีกคว้าตัวไปร่วมทีม ที่นี่เองที่เจ้าตัวโชว์ฟอร์มเก่งอย่างแท้จริงด้วยปลงาน 15 ประตู จาก 33 นัด ช่วยให้ทีมจบถึงอันดับ 7 ของตาราง กลายเป็นนักเตะคนโปรดขวัญใจแฟนบอลโดยทันที ดูบอลสด
        โอกาซากิตอบแทนผลงานในปีที่ 2 ด้วยผลงาน 12 ประตู จาก 32 นัด เป็นหัวหอกที่แนวรับคู่แข่งไม่อาจประมาทได้เลย โดยเฉพาะลูกขยันตามแบบฉบับแข้งชาวเอเชีย ก่อนตัดสินใจผจญภัยครั้งใหม่โยกมาในเล่นลีกสูงสุดเมืองผู้ดีกับเลสเตอร์ ซิตี้ อย่างที่ทราบกันกับซีซั่นสุดมหัศจรรย์ที่ผ่านพ้นไป ดาวยิงวัย 30 กะรัต คือหนึ่งในนักเตะคนสำคัญที่มีส่วนช่วยให้ทัพ ''จิ้งจอกสยาม'' จารึกประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอังกฤษ ด้วยการคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสรแบบช็อคโลก และเป็นแข้งญี่ปุ่นรายที่ 2 ต่อจาก ชินจิ คากาวะ ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก แม้จะยิงประตูได้ไม่เยอะ แต่ฟอร์มการเล่นถือว่ายอดเยี่ยมน่าประทับใจเลยทีเดียว 

                                                        ว่าน สวนไทร 

  
    


ความคิดเห็น