บทความฟุตบอล : รีวิว ลา ลีกา ครึ่งซีซั่นแรก (ตอน1)

รีวิว ลา ลีกา ครึ่งซีซั่นแรก (ตอน1)



         ผ่านไปอย่างรวดเร็วกับฟุตบอล ลา ลีกา สเปน ซีซั่น 2016-17 ที่ปิดฉากครึ่งซีซั่นแรกกันไปแล้ว 16 นัดที่แฟนบอลได้ติดตามเกิดหลากหลายเหตุการณ์ ดูบอลสด 

       แม้หนทางยังอีกยาวไกลกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลนี้ แต่ ณ เวลาที่โปรแกรมการแข่งขันถูกพักเบรค เหล่านักเตะต่างแยกย้ายไปใช้เวลาช่วงคริสมาสต์และปีใหม่ มีกำหนดกลับมาบรรเลงเพลงแข้งกันใหม่ช่วงต้นเดือนมกราคมปีใหม่ เรามีข้อมูลรีวิวบทสรุปภาพรวมของครึ่งซีซั่นแรกมาให้ติดตามกัน รายละเอียดจะเป็นเช่นไร ไปดูกันเลย


ทีมยอดเยี่ยม

เรอัล มาดริด



    "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด คือทีมที่ผลงานยอดเยี่ยมที่สุดใน ลา ลีกา ครึ่งฤดูกาลแรก หลังพลาดการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาเป็นเวลานานถึง 4 ปี ซีซั่นนี้ "โลส บลังโกส" ดูจะจริงจังกับการคว้าแชมป์มากกว่าครั้งไหนๆ กุนซือ ซีเนดีน ซีดาน กับลูกทีมทำผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยมทีเดียว พวกเขาทำสถิติไร้พ่าย 37 นัด และยังสานต่อได้เรื่อยๆ รั้งตำแหน่งจ่าฝูงของลีก โดยมีแต้มนำคู่ปรับสำคัญ "แชมป์เก่า" บาร์เซโลน่า 3 คะแนน และแข่งน้อยกว่า 1 นัด    จุดเด่นซีซั่นนี้ของ "ราชันชุดขาว" ไม่ได้อยู่ที่การไร้พ่ายเพียงอย่างเดียว หากแต่ละเกมของพวกเขายังคงเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าติดตาม มาดริดชุดนี้คือทีมที่สามารถพลิกสถานการณ์ในช่วงยากลำบากกลับมาได้เสมอ แม้บางเกมจะเล่นได้ย่ำแย่ ตัวอย่างสำคัญคือในเกม "เอล กลาซีโก้" ที่ตามตีเสมอบาร์ซ่า 1-1 ในนาที 88 หรืออย่างนัดล่าสุดที่พลิกชนะ ลา คอรุนญ่า 3-2 โดยได้ประตูชัยในนาทีที่ 92 สถิติรวมตอนนี้คือ แข่ง 15 ชนะ 11 เสมอ 4 ยิงได้ 40 ประตู เสียไป 14 ประตู ยิงได้มากสุดเป็นอันดับสองรองจากจาก บาร์เซโลน่า (41) แถมในระดับนานาชาติยังผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และเพิ่งคว้าแชมป์สโมสรโลกที่ญี่ปุ่นมาได้อีกด้วย
    จุดเด่นซีซั่นนี้ของ "ราชันชุดขาว" ไม่ได้อยู่ที่การไร้พ่ายเพียงอย่างเดียว หากแต่ละเกมของพวกเขายังคงเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าติดตาม มาดริดชุดนี้คือทีมที่สามารถพลิกสถานการณ์ในช่วงยากลำบากกลับมาได้เสมอ แม้บางเกมจะเล่นได้ย่ำแย่ ตัวอย่างสำคัญคือในเกม "เอล กลาซีโก้" ที่ตามตีเสมอบาร์ซ่า 1-1 ในนาที 88 หรืออย่างนัดล่าสุดที่พลิกชนะ ลา คอรุนญ่า 3-2 โดยได้ประตูชัยในนาทีที่ 92 สถิติรวมตอนนี้คือ แข่ง 15 ชนะ 11 เสมอ 4 ยิงได้ 40 ประตู เสียไป 14 ประตู ยิงได้มากสุดเป็นอันดับสองรองจากจาก บาร์เซโลน่า (41) แถมในระดับนานาชาติยังผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และเพิ่งคว้าแชมป์สโมสรโลกที่ญี่ปุ่นมาได้อีกด้วย
  


ทีมยอดแย่

บาเลนเซีย



    แม้ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา บาเลนเซีย จะปล่อยเหล่าสตาร์ดังออกไปหลายราย แต่แข้งที่ดึงเข้ามาก็ทำให้ก่อนออกตัวจากจุดสตาร์ท บาเลนเซียได้กำหนดเป้าหมายซีซั่นนี้ว่าจะต้องทำอันดับเพื่อไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปให้ได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นยูโรป้า ลีก หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม แต่ผลที่ออกมา ไม่เพียงแต่ยังห่างไกลจากเป้าหมายเท่านั้น แต่กลับต้องมาพบความจริงอันแสนเจ็บปวดว่าพวกเขาต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น

   "ไอ้ค้างคาว" ปีนี้เริ่มต้น ลา ลีกา ด้วยการปราชัย 4 นัดรวด ซึ่งถือว่าเป็นการออกตัวที่ห่วยแตกที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร จนสุดท้ายทีมต้องปลด ปาโก้ อาเยสเตราน ออกจากเก้าอี้กุนซือ ก่อนหันไปแต่งตั้งเทรนเนอร์ประสบการณ์สูงดีกรีรองแชมป์ยูโรกับทีมชาติอิตาลีอย่าง เชซาเร่ ปรันเดลลี่ เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ แรกๆ ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่บาเลนเซียก็ยังคงไปไม่ถึงไหน ฟอร์มการเอาแน่เอานอนไม่ได้ ไร้ความสม่ำเสมอ แฟนบอลเริ่มหมดศรัทธากับทีม วิจารณ์โจมตีนักเตะของตัวเองจนกลายเป็นวิกฤติในเวลานี้

    ปัจจุบัน บาเลนเซีย รั้งอันดับ 17 ของตาราง มีแต้มเท่ากับ สปอร์ติ้ง คิฆอน ทีมในโซนตกชั้น ด้วยสถิติ 15 เกม ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 9 ยิง 21 เสีย 29 มี 12 แต้ม ผลงานเกมเหย้าในรังเมสตาย่าคือหายนะอย่างแท้จริง เพราะพวกเขาชนะแค่เกมเดียวจาก 7 นัด ซึ่งเมื่อเทียบจากขนาดทีม เกียรติประวัติในอดีต และงบประมาณ ก็สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า "น่าผิดหวังที่สุด"


กุนซือยอดเยี่ยม

ฮอร์เก้ ซามเปาลี (เซบีญ่า)





    ซามเปาลีเข้ามาคุมทีมในยุโรปเป็นครั้งแรก ซึ่งจะว่าไปสำหรับกุนซือผู้มีแต่ประสบการณ์ในละตินอเมริกานั้น ไม่ใช่เรื่อง่ายเลยที่จะปรับตัว แต่กลายเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เขาเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม จนเเทบจะเรียกว่าเหมือนฝัน แม้เซบีญ่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะในช่วงปิดซีซั่น เพราะพวกเขาขายผู้เล่นไปหลายรายโดยเฉพาะกำลังสำคัญอย่าง เควิน กาไมโร่ และ เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค แต่ซามเปาลีก็สามารถปรับทีมให้เล่นได้อย่างลงตัว โดย 16 เกมในลา ลีกา ที่ผ่านมา ยอดทีมแห่งอันดาลูเซีย สร้างผลงานชนะ 10 เสมอ 3 แพ้ 3 ยิงได้มากถึง 32 ประตู (เป็นรองแค่ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า) เสีย 21 ประตู เก็บได้ 33 คะแนน รั้งอันดับ 3 ของตารางในเวลานี้    นอกจากผลงานจะดีต่อเนื่องแล้ว ในแง่ของแท็กติก เฮดโค้ชรายนี้ยังทำให้ทีมเล่นออกมาได้น่าติดตาม ทั้งเอนเทอร์เทน และฉูดฉาดด้วยเกมบุกที่หลากหลาย ส่วนในถ้วยยุโรป เขายังพาทีมผ่านเข้ารอบ 16 สุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกของสโมสรอีกด้วย

 


กุนซือยอดแย่

ฆัวกิน กาปาร์รอส (โอซาซูน่า)



   กาปาร์รอส วัย 61 ปี เซ็นสัญญาคุมทัพโอซาซูน่าเป็นเวลา 1 ฤดูกาลครึ่ง เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน หลัง เอ็นรีเก้ มาร์ติน โดนไล่ออกจากตำแหน่ง เขาประเดิมคุมทีมนัดแรกด้วยการออกไปแพ้เลกาเนส 0-2 ซึ่งเป็นการมอบชัยชนะในบ้านเกมแรกในประวัติศาสตร์นับแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลา ลีกา ให้ เลกาเนส อีกด้วย ดูบอลสด 

   จากนั้น กาปาร์รอสก็คุมทีมต่ออีก 4 เกม เล่นในบ้านแพ้ แอตเลติโก้ มาดริด 0-3, แพ้สปอร์ติ้ง คิฆอน 1-3 ในการออกไปเยือน, แพ้บาร์เซโลน่า 0-3 คาบ้าน และล่าสุดก่อนพักเบรคหนีหนาว ออกไปพ่าย ลา คอรุนญ่า 0-2 ที่ริอาซอร์ โดยสรุปสถิติคุมทีม 5 นัด แพ้ 5 นัดรวด ยิงได้ 1 เสีย 13 เก็บไม่ได้เลยแม้แต่แต้มเดียว ซึ่งคงไม่มีใครแย่เท่ากับเทรนเนอร์รายนี้อีกแล้ว หากมองในแง่ที่ว่าการเปลี่ยนกุนซือใหม่ที่อะไรๆก็ควรดีขึ้นบ้าง กาปาร์รอสไม่ได้ตอบโจทย์จุดนี้เลยแม้แต่น้อย ผลที่ได้คือความล้มเหลวที่รุนแรงเกินรับได้ ต้องคอยติดตามว่าผลงานจะกระเตื้องขึ้นมาหรือไม่ เมื่อโปรแกรมครึ่งซีซั่นหลังกลับมาฟาดแข้งอีกครั้ง

ว่าน สวนไทร

ความคิดเห็น