ปรีวิวฟุตบอล อีเอฟแอล คัพ
แมนฯ ยูไนเต็ด VS เซาท์แฮมป์ตัน
เดินทางมาถึงนัดชิงดำแล้วสำหรับศึก อีเอฟแอล คัพ เป็นการโคจรมาพบกันของสองทีมจากพรีเมียร์ลีก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อันดับ6) พบ "นักบุญ" เซาท์แฮมป์ตัน (อันดับ11) ดูบอลสด
แน่นอนว่าเรามีปรีวิวก่อนเกมมาฝากกันเช่นเคย ความพร้อมล่าสุดของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ผลงานช่วงหลังใครทำได้ดีกว่ากัน แนวโน้มทิศทางของแมตช์นี้จะปิดฉากลงในรูปแบบใด ไปติดตามรายละเอียดทั้งหมดกันเลย
สภาพทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : กุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เฮนริคห์ มคิตาร์ยาน เพลย์เมกเกอร์คนเก่งที่บาดเจ็บจากนัดล่าสุดที่ชนะ แซงต์ เอเตียนน์ 1-0 ในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และ ฆวน มาต้า ที่กลับสเปนด่วนเนื่องจากปู่เสีย คาดว่าจะมีการปรับทัพมากพอสมควร โดยส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิแอล ลงทำเกมรุกแทน มคิตาร์ยาน และวาง อันเดร์ เอร์เรร่า เป็นแดนกลางตัวจริงแทน มารูยาน เฟลไลนี่ ที่เตรียมหลุดเป็นแค่สำรอง นอกจากนี้จะเปลี่ยนสองฟูลแบ็คด้วยการถอด แอชลี่ย์ ยัง กับ ดาลี่ย์ บลินด์ ออกและใช้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ มาร์กอส โรโฮ เติมเกมริมเส้นแทน ขณะที่หน้าเป้าตัวความหวังยังใช้บริการขาประจำ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตามเดิม
เซาท์แฮมป์ตัน : เทรนเนอร์ โคล้ด ปูแอล ไม่มีตัวเจ็บเพิ่ม โดยรายที่เดี้ยงอยู่แล้วได้แก่ เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, ชาร์ลี ออสติน, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์, เฌเรมี่ ปิเอ็ด และ อเล็กซ์ แม็กคาร์ธี่ คาดว่านายใหญ่เฟร้นช์แมนจะส่ง 11 ตัวจริงจากเกมล่าสุดที่บุกถล่ม ซันเดอร์แลนด์ 4-0 ลงบู๊อีกครั้ง โดยมี มาโนโล่ แก๊บเบียดินี่ ศูนย์หน้าป้ายแดงที่ฟอร์มร้อนแรงลงยืนค้ำในแดนหน้าเหมือนเช่นเคย และวาง เจมส์ วอร์ด-เพราส์, โอริออล โรเมอู กับ สตีเว่น เดวิส คอยคุมเกมอยู่ด้านหลัง ขณะที่แผงแบ็คโฟร์ยังคงวางใจใช้ เซดริก โซอาเรส, แจ็ค สตีเฟ่นส์, มายะ โยชิดะ และ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ประจำการเฝ้าหลังบ้านเช่นเคย
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-3-3) : ดาบิด เด เกอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, เอริก ไบญี่, มาร์กอส โรโฮ - อันเดร์ เอร์เรร่า, ไมเคิล คาร์ริค, ปอล ป็อกบา - มาร์คัส แรชฟอร์ด, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, อ็องโตนี่ มาร์กซิแอล
เซาท์แฮมป์ตัน (4-2-3-1) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ - เซดริก โซอาเรส, แจ็ค สตีเฟ่นส์, มายะ โยชิดะ, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - เจมส์ วอร์ด-เพราส์, โอริออล โรเมอู, สตีเว่น เดวิส - นาธาน เร้ดม่อนด์, มาโนโล่ แก๊บเบียดินี่, ดูซาน ทาดิช
สถิติพบกัน 5 นัดหลังสุด
11/09/16 สวอนซี ซิตี้ เสมอ เชลซี 2-2
09/04/16 สวอนซี ซิตี้ ชนะ เชลซี 1-0
09/08/15 เชลซี เสมอ สวอนซี ซิตี้ 2-2
17/01/15 สวอนซี ซิตี้ แพ้ เชลซี 0-5
13/09/14 เชลซี ชนะ สวอนซี ซิตี้ 4-2
สถิติ 5 นัดหลังสุดในรายการนี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
27/01/17 แพ้ ฮัลล์ ซิตี้ 1-2 (เยือน)
11/01/17 ชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 2-0 (เหย้า)
01/12/16 ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 (เหย้า)
27/10/16 ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 (เหย้า)
22/09/16 ชนะ นอร์ทแฮมป์ตัน ทาวน์ 3-1 (เยือน)
เซาท์แฮมป์ตัน
26/01/17 ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (เยือน)
12/01/17 ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (เหย้า)
01/12/16 ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 (เยือน)
27/10/16 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (เหย้า)
22/09/16 ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 (เหย้า)
สถิติ 5 นัดหลังสุดทุกรายการ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
23/02/17 ชนะ แซงต์ เอเตียนน์ 1-0 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
20/02/17 ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ
17/02/17 ชนะ แซงต์ เอเตียนน์ 3-0 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
11/02/17 ชนะ วัตฟอร์ด 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
05/02/17 ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
เซาท์แฮมป์ตัน
11/02/17 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 4-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
04/02/17 แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
01/02/17 แพ้ สวอนซี ซิตี้ 1-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
29/01/17 แพ้ อาร์เซน่อล 0-5 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
26/01/17 ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (เยือน) ลีก คีพ
น่ารู้ก่อนเกม
- เซาท์แฮมป์ตัน กลายเป็นทีมที่ 3 ต่อจาก ลิเวอร์พูล และ แอสตัน วิลล่า ที่เคยเข้าชิงรายการ เอฟเอ คัพ และลีก คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- "นักบุญ" เคยคว้าแชมป์เมเจอร์ในประเทศได้แค่ครั้งเดียวคือ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1986 โดยเป็นการเอาชนะ "ปีศาจแดง" ไปด้วยสกอร์ 1-0
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าชิงถ้วยนี้เป็นครั้งที่ 9 โดย 8 ครั้งที่ผ่านมาชนะและแพ้อย่างละ 4 ครั้งเท่ากัน อย่างไรก็ตามพวกเขาเข้าชิง 3 ครั้งหลังสุดได้แชมป์ทั้งหมด ( วีแกน แอธเลติก ปี 2006, ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ปี 2009 และ แอสตัน วิลล่า ปี 2010 )
- โชเซ่ มูรินโญ่ เข้าชิงรายการนี้เป็นครั้งที่ 4 โดย 3 ครั้งก่อนหน้านี้เกิดขึ้นกับ เชลซี ในปี 2005, 2007, 2015 และคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด นอกจากนั้นยังได้แชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2007 เท่ากับว่า "เดอะ สเปเชียล วัน" เข้าชิงบอลถ้วยในอังกฤษ 4 ครั้งสถิติชนะ 100%
- "นักบุญ" คือทีมที่ 2 ต่อจาก ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ( ซีซั่น 1981-82) ที่เข้าชิงรายการนี้โดยไม่เสียแม้แต่ประตูเดียวแต่ "ไก่เดือยทอง" ปีนั้นลงเอยด้วยการปราชัยต่อ ลิเวอร์พูล 1-3 ได้แค่รองแชมป์
- โคล้ด ปูแอล เคยคุมทีมเข้าชิงบอลถ้วยในประเทศครั้งเดียวคือนำ โมนาโก เข้าชิงชนะเลิศ เฟรนช์ ลีก คัพ เมื่อปี 2001 แต่แพ้ โอลิมปิก ลียง 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
เป็นเกมนัดเดียวที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้ว่าอันดับในตาราคะแนนฟุตอบอลพรีเมียร์ลีกจะเป็น "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อยู่เหนือกว่าก็ตาม โดยลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรง 5 นัดหลังสุดทุกรายการ คว้าชัยได้ 100% กำลังไปได้สวยมีลุ้นแชมป์ในทุกถ้วยของซีซั่นนี้ โดยเป้าหมายแรกคือเกมนัดนี้ ฝั่งคู่ต่อสู้ "นักบุญ" เซาท์แฮมป์ตัน โชว์ผลงานสุดยอด ทะลุเข้ามาชิงดำแบบเหนือความคาดหมาย หลังจากรอบตัดเชือกหักด่านทีมแกร่งอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-0 นอกจากนี้สถิติตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางมาจนรอบชิงชนะเลิศ พวกเขายังไม่เสียซักประตูอีกด้วย แม้ภาพรวมผลงานในลีกจะไม่ค่อยดี แต่ก็มีลุ้นหยิบตั๋วไปลุยศึก ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลหน้าหากคว้าแชมป์ได้ เชื่อว่าโฉมหน้าเกมนี้ออกมาแลกหมัดซัดกันไฟแลบ ใส่กันเต็มสูบสนุกสุดมันส์แน่นอน แม้ว่าพลพรรค "นักบุญ" จะได้พักและมีเวลาเตรียมทีมที่มากกว่า เพราะทีม "ปีศาจแดง" ที่เพิ่งกลับจากภาระกิจที่ฝรั่งเศส แต่คงไม่มีผลอะไรเท่าไหร่ เพราะยังไงทีมงาน "เร้ดเดวิลล์" ก็เหนือกว่าด้วยคุณภาพทีม และมาตรฐานตัวผู้เล่นอยู่แล้ว บวกกับความ "เขี้ยวลากดิน" ของนายใหญ่ชาวโปรตุกีสที่เน้นทุกรายละเอียด ดังนั้นจึงมั่นใจว่าแมตช์นี้จะไม่ยืดเยื้อ และจบลงใน 90 นาทีชัวร์ โดยสุดท้ายจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิดจ็อบเข้าป้ายคว้าชัยซิวแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ดูบอลสด
ผลที่คาด
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-0 (มั่นใจ 75%)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น