ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
แมนฯ ยูไนเต็ด VS บอร์นมัธ
โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 26 คืนนี้ลงฟาดแข้งกัน 7 คู่ เรามีปรีวิวก่อนเกมมาฝากกันเช่นเคย เป็นเกมระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อันดัน6) เปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ด พบกับ "เดอะ เชอร์รี่ส์" บอร์นมัธ (อันดับ14)
ความพร้อมล่าสุดของทั้งสองทีมจะเป็นอย่างไร ผลงานช่วงหลังใครทำได้ดีกว่ากัน แนวโน้มทิศทางของเกมนี้จะปิดฉากในรูปแบบใด ไปติดตามรายละเอียด สถิติที่น่าสนใจ และทรรศนะคาดเดาผลการแข่งขันกันเลย ดูบอลสด
สภาพทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : กุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ ยังคงอดใช้งาน เฮนริค มคิทาร์ยาน เพลย์เมกเกอร์ตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บต้องพักยาว 1 เดือน ส่วนในรายของ ฟิล โจนส์ กองหลังวัย 25 ปี สามารถกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูความฟิต คาดว่าจะมีการปรับทัพจากนัดล่าสุดที่เอาชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-2 ในศึก ลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ ด้วยการส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงปั้นเกมรุกแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิแอล และดัน ปอล ป็อกบา จากมิดฟิลด์คู่กลางขึ้นมาเป็นสามประสานแนวรุก เพื่อหลีกทางให้ ไมเคิ่ล คาร์ริค ลงคุมแดนกลางกับ อันเดร์ เอร์เรร่า อีกครั้ง เช่นเดียวกับ ดาลี่ย์ บลินด์ ที่จะได้รับโอกาสลงเล่นแทน มาร์กอส โรโฮ ในตำแหน่งแบ็คซ้าย โดยจะมีชื่อของ เวย์น รูนี่ย์ และ ลุค ชอว์ คืนสู่ทีมในเกมลีกอีกครั้ง ออกสตาร์ทรอโอกาสที่ม้านั่งสำรอง
บอร์นมัธ : เทรนเนอร์ เอ็ดดี้ ฮาวด์ ไม่มีแข้งเจ็บหรือติดโทษแบนเพิ่มเติม นอกจากอดใช้งานตัวเจ็บเดิมอย่าง คัลลั่ม วิลสัน, ไซม่อน ฟรานซิส และ อดัม เฟเดริซี่ คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมเพียงตำแหน่งเดียวจากเกมล่าสุด ด้วยการส่ง จูเนียร์ สตานิสลาส ลงสร้างสรรค์เกมรุกแทน มาร์ก พิวจ์ ที่เตรียมนั่งสำรอง ขณะที่อีก 10 ตำแหน่งยึดชุดเดิมจากเกมแพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-2 ลงบู๊อีกครั้ง โดยมี โจชัว คิง เป็นศูนย์หน้าตัวเป้าและวาง แฮร์รี่ อาร์เตอร์ กับ แอนดรูว์ เซอร์แมน คอยคุมจังหวะเกมอยู่ด้านหลัง
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-3-3) : ดาบิด เด เกอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, เอริก ไบญี่, ดาลี่ย์ บลินด์ - ไมเคิล คาร์ริค, อันเดร์ เอร์เรร่า - ฆวน มาต้า, ปอล ป็อกบา, มาร์คัส แรชฟอร์ด - ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
แอธเลติก บิลเบา (4-2-3-1) : อาร์เทอร์ โบรุก - อดัม สมิธ, สตีฟ คุก, ไทโรน มิงส์, ชาร์ลี แดเนี่ยลส์ - แฮร์รี่ อาร์เตอร์, แอนดรูว์ เซอร์แมน - จูเนียร์ สตานิสลาส, แจ็ค วิลเชียร์, ไรอัน เฟรเซอร์ - โจชัว คิง
สถิติพบกันของทั้งสองทีม
14/08/16 บอร์นมัธ แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-3
18/05/16 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ บอร์นมัธ 3-1
13/12/15 บอร์นมัธ ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1
สถิติ 5 นัดหลังสุดทุกรายการ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
27/02/17 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-2 (สนามกลาง) ลีก คัพ
23/02/17 ชนะ แซงต์ เอเตียนน์ 1-0 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
20/02/17 ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ
17/02/17 ชนะ แซงต์ เอเตียนน์ 3-0 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
11/02/17 ชนะ วัตฟอร์ด 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
บอร์นมัธ
25/02/17 แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
14/02/17 แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
04/02/17 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 3-6 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
01/02/17 แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
21/01/17 เสมอ วัตฟอร์ด 2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
สถิติที่น่าสนใจ
- นัดนี้จะเป็นครั้งที่ 4 ที่ทั้งสองทีมพบกันในพรีเมียร์ลีก โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 2 จาก 3 เกม (แพ้ 1)
- "ปีศาจแดง" มีสถิติชนะ 100% จากเกมเหย้าที่พบ บอร์นมัธ รวมทุกรายการ โดยคว้าชัยทั้ง 5 เกมก่อนหน้านี้ที่พบ เดอะ เชอร์รี่ส์ ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด (ยิง 15 เสีย 1)
- เวย์น รูนี่ย์ ทำประตูได้ตลอด 2 นัดก่อนหน้านี้ที่พบ บอร์นมัธ ซึ่งก็รวมถึงเกมในซีซั่นก่อนที่เปิดบ้านชนะ 3-1 ในวันสุดท้ายของซีซั่น โดยเขายังทำแอสซิสต์ในนัดนั้นได้อีกด้วย
- อาร์เทอร์ โบรุก นายทวารบอร์นมัธ ไม่เคยเก็บคลีนชีตในการพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้เลยจาก 4 ครั้งที่เคยพบกัน (2 นัดกับเซาธ์แฮมป์ตัน และ 2 นัดกับเซลติก) โดยเสียไปถึง 9 ประตู
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไร้พ่ายตลอด 16 นัดหลังสุดในลีกตั้งแต่แพ้ เชลซี เมื่อตุลาคม (ชนะ 9 เสมอ 7 แพ้ 0) ซึ่งเป็นผลงานไม่แพ้ใครยาวนานที่สุดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้
- บอร์นมัธ แพ้รวด 4 นัดหลังสุดในลีก พวกเขาไม่เคยพ่าย 5 นัดติดต่อกันในลีก ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 ซึ่งขณะนั้นอยู่ลีกลำดับที่ 3 ของประเทศ
- "เดอะ เชอร์รี่ส์" เป็นทีมที่เก็บแต้มในพรีเมียร์ลีกปี 2017 ได้น้อยที่สุด (2 คะแนน) โดยเสียไปถึง 20 ประตู ซึ่งมากที่สุดในเวลานี้
- ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (9 ประตู) ยิงได้น้อยกว่า บอร์นมัธ (10 ประตู) ทั้งทีมจากการเล่นรวมทุกรายการเพียงลูกเดียวเท่านั้นในปี 2017
- ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงไปแล้ว 26 ประตูให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทุกรายการในซีซั่นนี้ โดยยังไม่มีนักเตะคนใดในทีมที่ยิงได้ถึงเลขสองหลักเลยในตอนนี้
- ไรอัน เฟรเซอร์ เป็นผู้เล่นที่เรียกจุดโทษได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ (4 ครั้ง)
-ชัยชนะนัดต่อไปของ "ผีแดง" ในพรีเมียร์ลีกจะเป็นเกมที่ 600 และพวกเขาจะเป็นทีมแรกที่เดินทางผ่านหลักนี้ได้สำเร็จ (แข่ง 949 ชนะ 599 เสมอ 203 แพ้ 147)
เจ้าบ้าน "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงมั่นใจสุดๆ หลังเพิ่งซิวแชมป์ อีเอฟแอล คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อีกทั้งฟอร์มช่วงหลังก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ชนะรวด 5 เกมรวมทุกถ้วย ไร้พ่ายในลีกมา 16 นัดติดต่อกัน (ชนะ 9 เสมอ 7) สวนทางกับผลงานของผู้มาเยือน "เดอะ เชอร์รี่ส์" บอร์นมัธ ที่ย่ำแย่ต่อเนื่องจากการไร้ชัย 5 เกมหลังสุดในลีก เป็นความพ่ายแพ้ถึง 4 เกม สถิตินอกบ้านไม่มีอะไรให้หวัง เพราะแพ้รวดใน 4 นัดล่าสุด โดนคู่แข่งทะลวงตาข่ายไปเละเทะถึง 14 ประตู วัดกันที่ผลงานแค่อย่างเดียว เจ้าถิ่น "ผีแดง" ก็กินขาดเหนือกว่าบานเบอะหลายช่วงตัว การได้เล่นใน "โรงละครแห่งความฝัน" และมีแรงจูงใจที่สำคัญคือ หากคว้าชัยเกมนี้ได้ พวกเขาจะถีบตัวเองหนีอันดับ 6 ของตารางขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนของซีซั่นนี้ได่สำเร็จ เพิ่มโอกาสจบฤดูกาลติดท๊อปโฟร์ได้ตามเป้าหมาย ดังนั้นจึงเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่าพลพรรค "เร้ดเดวิลล์" จะเผด็จศึกทีมรองบ่อนฟอร์มห่วยแตกได้ไม่ยากเย็น ฟันธงชี้ชัดจัดเต็มเลือกเชียร์ทีมต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เด็ดสะระตี่ขยี้ บอร์นมัธ เก็บ 3 คะแนนสำคัญได้แน่นอน 2 ลูกขึ้นไปมีชัวร์ ดูบอลสด
สกอร์ที่คาด
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ บอร์นมัธ 2-0 (มั่นใจ 80%)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น