บทความฟุตบอล : 5 แมตช์โคตร "คัมแบ็ค" แห่งโลกลูกหนัง

 5 แมตช์โคตร "คัมแบ็ค"

แห่งโลกลูกหนัง

    อรรถรสอย่างหนึ่งของกีฬาฟุตบอลคือ การพลิกสถานการณ์จากเป็นรองสุดกู่ แหกนรกกลับมาอยู่รอดไม่ปราชัย หรือเอาชนะไปได้เลยนั้น เกิดขึ้นเป็นความสนุกสุดมันส์ที่น่าติดตามอย่างยิ่ง  ดูบอลสด

        วันนี้เรารีวิวข้อมูลของ 5 เกมสุดมันส์ และอาจถูกยกให้เป็นที่สุดของการ "คัมแบ็ค" ในโลกฟุตบอลมาฝากกัน เชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่จดจำได้อย่างแน่นอน จะเป็นคู่ไหนบ้างนั้น ไปหาคำตอบกันเลย ลุย!

  

5. นิวคาสเซิ่ล เสมอ อาร์เซน่อล 4-4

(พรีเมียร์ลีก 2010-11)

     ในซีซั่น 2010-11 หากใครได้ชมเกมคู่นี้ ต้องบอกว่าคุ้มมากๆ มันส์สุดยอดไปเลย ทั้งหมดเกิดจาการที่ทัพ "ปืนใหญ่" บุกมานำ "สาลิกาดง" ถึง เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ด้วยสกอร์ 4-0 ภายในเวลาแค่ 26 นาทีแรกเท่านั้น เริ่มเกมครึ่งหลังได้ไม่กี่นาที ดิยาบี้ ของ อาร์เซน่อล ก็โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป ทำให้เจ้าบ้านฮึดสู้ และไล่ตามมาติด ๆ จาก โจอี้ บาร์ตัน และ เลออน เบสต์ เป็น 4-3 จนเกมเดินทางเข้าสู่ช่วงท้าย แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนามอีกครั้ง เมื่อมิดฟิลด์ผิวสีอย่าง ชีค ติโอเต้ (ผู้ล่วงลับ) มาตะบันประตูสุดงามให้ทีมไล่ตามตีเสมอได้อย่างโคตรบ้า 4-4 ได้สำเร็จ

  

4. ลิเวอร์พูล ชนะ ดอร์ทมุน 4-3

(ยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศ 2015-16)

    แมตช์นี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เป็นเกมยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน เจอร์เก้น คล็อปป์ โคจรมาเจอทีมเก่าของตัวเอง นั่นคือ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยในนัดแรกถือว่า "หงส์แดง" ได้เปรียบอยู่นิดหน่อยที่บุกไปเสมอมาได้ในสกอร์ 1-1 เกมดูเหมือนจะจบลงไปอย่างรวดเร็วเมื่อ มคิตาร์ยาน และ โอบาเมยอง ซัดคนละประตูให้อาคันตุกะจากบุนเดสลีก้า บุกมานำถึงแอนฟิลด์ แต่ในครึ่งหลัง เกมเหมือนเป็นหนังคนละม้วนไป เพราะเจ้าบ้านเล่นเกมบุกได้ดีขึ้นไล่ตีไข่แตก แต่ก็โดน มาร์โก รอยส์ ยิงเพิ่มให้ดอร์ทมุนอีก 1 ประตู แต่จิตใจของนักเตะลิเวอร์พูลก็ไม่ยอมแพ้ สู้ยิบตาช่วยกันทำประตูจนไล่มาตีเสมอ 3-3 ซึ่งสกอร์นี้ยังไม่เพียงพอที่จะเข้ารอบด้วยกฏอเวย์โกล แต่ก็ไม่ต้องมาคิดกันเยอะ เพราะ "หงส์แดง" ทำสิ่งอัศจรรย์ได้อีกครั้ง จากประตูชัยในช่วงทดเจ็บโดยแนวรับคนสำคัญ เดยาน ลอฟเรน พลิกสถานการณ์ทะลุสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จตามเป้าหมาย

 

3. ลา คอรุนญ่า ชนะ เอซี มิลาน 4-0

(ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ 2003-04 )

         ทีม "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ตุนความได้เปรียบไว้บานเบอะ หลังจากนัดแรกเปิดบ้านเอาชนะไปได้ถึง 4-1 แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในเกมนัดสองที่สเปน เมื่อพลพรรค "ซูเปอร์เดปอร์" สร้างสิ่งอัศจรรย์ด้วยการยิงในครึ่งแรกออกนำไปก่อนถึง 3-0 ซึ่งสกอร์นี้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตีตั๋วเข้ารอบต่อไปด้วยกฏประตูทีมเยือน แต่ก็มาการันตีอีก 1 ประตูปิดเกมเป็น 4-0 ผ่านเข้าสู่เกมนัดชิงดำได้แบบช็อคโลกไม่น้อยเลยทีเดียว

2. ลิเวอร์พูล ชนะจุดโทษ เอซี มิลาน (เสมอ 3-3)

(ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ 2004-05 )

      หากพูดถึงการคัมแบ็คในโลกลูกหนัง ต้องมีแมตช์นี้อยู่ในโผอย่างแน่นอน การตกเป็นรองทีมอย่าง เอซี มิลาน ถึง 0-3 ในครึ่งแรก แฟนบอลหงส์แดงส่วนใหญ่คงทำใจยอมรับความพ่ายแพ้แล้วในเวลานั้น แต่นักเตะของ ลิเวอร์พูล ไม่ยอมแพ้ฮึดสู้สุดแรงเกิด เปลี่ยนครึ่งหลังเป็นหนังคนละม้วน จัดการไล่ยิง 3 ประตูภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด, วลาดิเมียร์ สมิเซอร์ และลูกซ้ำจุดโทษของ ชาบี้ อลอนโซ่ สุดท้ายจบ 90 นาที และ 120 นาทีด้วยสกอร์ 3-3 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และเทพีแห่งโชคก็เข้าข้าง ลิเวอร์พูล ที่ยิงได้แม่นกว่า โดยต้องยกเครดิตนี้ให้กับ เจอร์ซี่ ดูเด็ค นายทวารจอมหนึบ ที่เซฟได้ถึงสองครั้ง จากลูกยิงของ อันเดรีย ปิร์โล และ อังเดร เชฟเชนโก้ ช่วยให้สาวก "เดอะค็อป" ได้เฮฉลองแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 อย่างยิ่งใหญ่  ดูบอลสด  

1. บาร์เซโลน่า ชนะ เปแอสเช 6-1 

(ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม 2016-17 )

     การสร้างปฎิหาริย์ครั้งสำคัญของทัพ "ต่างดาว" บาร์เซโลน่า เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อซีซั่นล่าสุดนี่เอง พวกเขาพลาดท่าออกไปพ่าย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาก่อนถึง 0-4 สื่อมวลชนและแฟนบอลทั่วโลกต่างคิดว่า บาร์ซ่า คงจอดป้ายแน่นอนในรอบนี้ แต่ฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะเมื่อกลับไปเล่นเลกสองที่สังเวียน คัมป์ นู ทุกอย่างเริ่มตันได้ยอดเยี่ยมดั่งเขียนบทไว้ล่วงหน้า เมื่อพวกเขาได้ประตูเรียกกำลังใจจาก หลุยส์ ซัวเรซ ตั้งแต่นาทีที่ 3 และขยับเป็น 2-0 ก่อนจบครึ่งแรก โมเมนตัมเหวี่ยงมาอยู่ฝั่งเจ้าบ้านอย่างชัดเจน เมื่อพวกเขาได้ประตูที่ 3 จากจุดโทษ และเป็น ลิโอเนล เมสซี จัดการไม่พลาด แต่สถานการณ์ก็เปลี่ยนอีกครั้งเมื่อ เปแอสเช ได้หนึ่งประตูตีไข่แตกจาก เอดิสัน คาวานี่ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อาจหยุดความมุ่งมั่นของยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลันได้ เพราะ บาร์เซโลน่า มาได้อีก 3 ประตูรวด พลิกนรกสุดมหัศจรรย์ทะยานเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จในท้ายที่สุด

..ว่าน สวนไทร..