9 แข้งดังคว้าแชมป์พรีเมียรลีกกับ 2 สโมสร (ตอน1)
การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของนักเตะหนึ่งคนกับหนึ่งสโมสรนั้นคือเรื่องปกติ แต่มีแข้งดังจำนวนหนึ่งที่ค้าแข้งและเป็นแชมป์ลีกสูงสูดอังกฤษได้กับ 2 ต้นสังกัด เว็บดูบอลสดจะพาไปรู้จักผลงานอันสุดยอดของพวกเขาเหล่านั้นกันครับ
นิโกล่า อเนลก้า
(เชลซี และ อาร์เซน่อล)
แชมป์กับเชลซี : ซีซั่น 2009-10
แชมป์กับอาร์เซน่อล : ซีซั่น 1997-98
เขาถูกอาร์แซน เวนเกอร์ ดึงตัวมาเล่นในอังกฤษเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 1997 ตอนที่เจ้าตัวอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น จนกระทั่งซีซั่น 1997-98 เขาก็ถูกดันขึ้นเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่เต็มตัว จากการบาดเจ็บยาวของดาวยิงระดับตำนานอย่าง เอียน ไรท์ และพาทีมคว้าแชมป์ได้ทั้งพรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ ก่อนที่ฟอร์มอันยอดเยี่ยมในฤดูกาลถัดมา ที่ยิงไปถึง 17 ประตู ในพรีเมียร์ลีก จะไปเข้าตาทีม "ราชันย์ชุดขาว" หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสจึงได้ย้ายไปค้าแข้งในสเปนด้วยค่าตัวสูงถึง 22.7 ล้านปอนด์ แต่ด้วยปัญหาทางด้านวินัย ทำให้เขาไม่สามารถยืนระยะค้าแข้งเป็นเวลานานกับแต่ละทีมได้
โดยอเนลก้ากลับมาโลดแล่นอังกฤษอีกครั้งในช่วงปี 2008-2011 เริ่มจากโบลตันแล้วย้ายไปอยู่กับเชลซี ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ดีของเขา เพราะสามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2008-09 และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดได้เพิ่มอีกหนึ่งสมัยในซีซั่นถัดมา เป็นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอนที่สุดพิเศษ เพราะทั้งสองครั้งคือการคว้า “ดับเบิลแชมป์” โดยได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ในปีเดียวกันด้วย
คาร์ลอส เตเวซ
(แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
แชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ซีซั่น 20011-12
แชมป์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ซีซั่น 2007-08 และ 2008-09
เขาเคยเป็นที่รักของแฟนปีศาจแดง จากความทุ่มเทเกินร้อย และยิงประตูได้อย่างเด็ดขาด พาต้นสังกัดคว้าแชมป์มากมายในช่วงเวลา 2 ปีในโรงละครแห่งความฝัน แต่การเข้ามาของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ทำให้เขากระเด็นไปเป็นตัวสำรองในฤดูกาล 2008-09 ก่อนตัดสินใจย้ายไปอยู่กับคู่ปรับร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งยอมทุ่มเงินสูงถึง 47 ล้านปอนด์กระชากตัวไปร่วมทีม
เตเวซทำผลงานได้สุดยอดด้วยการซัดรวมกันทุกรายการถึง 52 ประตู ใน 2 ฤดูกาลแรกกับทีม ก่อนจะกลายเป็นเพียงตัวเลือกรองในด้านหน้า เพราะการเข้ามาของ เอดิน เซโก้, มาริโอ บาโลเตลลี่ และเซร์คิโอ อเกวโร่ ช่วงต้นฤดูกาล 2011-12 เจ้าตัวโดนจับดองยาว เพราะมีปัญหากับกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ แต่ในช่วงท้ายซีซั่นดังกล่าว เขากลับมามีชื่อในทีมอีกครั้ง และเป็นกุญแจสำคัญช่วยให้เกมรุกของทีมกลับมาดุดัน จนเร่งเครื่องแซงปีศาจแดงเข้าป้ายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ในช่วงต้นปี 2013 เจ้าตัวได้ออกมาเผยว่าอาจแขวนสตั๊ด หรือย้ายกลับไปเล่นให้ทีมรักในบ้านเกิด แต่สุดท้ายก็เลือกย้ายไปอิตาลีค้าแข้งกับยูเวนตุสเป็นเวลา 2 ฤดูกาล จากนั้นจึงย้ายกลับอาร์เจนตินาไปเล่นให้โบคาร์ จูเนียร์ ในฤดูกาลล่าสุด ดูบอลสด
เฮนนิ่ง เบิร์ก
(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์)
แชมป์กับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ : ซีซั่น 1994-95
แชมป์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ซีซั่น 1998-99 และ 1999-2000
อดีตเซ็นเตอร์แบ็คทีมชาตินอร์เวย์ ซึ่งเป็นแฟนปีศาจแดงมาตั้งแต่เยาว์วัย ค้าแข้งกับทีมกุหลาบไฟเป็นสโมสรแรกในอังกฤษ และเป็นกำลังสำคัญพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในปี 1995 ต่อมาในปี 1997 เขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับทีมโปรดในดวงใจ ด้วยค่าตัวถึง 5 ล้านปอนด์ เบิร์กเป็นตัวจริงให้ทีมปีศาจแดงได้แค่ซีซั่นเดียว ก่อนจะนั่งยาวเป็นตัวสำรอง จากการย้ายเข้ามาของยาป สตัม ในช่วงซัมเมอร์ 1998 และในปี 2000 เขาก็ถูกปล่อยตัวกลับไปอยู่ต้นสังกัดเก่าอีกครั้ง โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเพิ่มอีก 2 สมัยกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1999 และ 2000 ในฐานะแข้งอะไหล่สำรอง
กาแอล กลิชี่
(แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล)
แชมป์กับอาร์เซน่อล : ซีซั่น 2003-04
แชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ซีซั่น 2011-12 และ 2013-14
ถูกอาร์แซน เวนเกอร์ คว้าตัวมาจาก กานส์ ในฝรั่งเศสตอนที่มีอายุเพียง 17 ปี เมื่อปี 2003 และถูกใส่ชื่อเป็นผู้เล่นทีมชุดใหญ่ทันที ประจำการตำแหน่งแบ็กซ้ายคอยแบ็คอัพให้ แอชลี่ย์ โคล ก่อนเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่ายในซีซั่น 2003-04 จนกระทั่งปี 2006 ที่อดีตแบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษย้ายไปเชลซี เขาจึงกลายเป็นตัวจริงแทนทันที และพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างยอดเยี่ยม และด้วยสาเหตุที่ต้นสังกัดคว้าน้ำเหลวไม่ได้แชมป์ลีกมานานหลายปี เขาจึงตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมเรือใบสีฟ้าเมื่อซัมเมอร์ปี 2011 และประสบความสำเร็จได้ชูโทรฟี่แชมป์ลีกอีกสมัยทันที ก่อนจะมาบวกเพิ่มอีกหนึ่งครั้งในปี 2014
มาร์ค ชวาเซอร์
(เลสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี)
แชมป์กับเชลซี : ซีซั่น 2014-15
แชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ซีซั่น 2015-16
แม้จะได้ลงสนามไม่ครบโควต้าที่จะได้รับเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกกับทั้ง 2 ทีม แต่เขาก็ถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นนักเตะคนแรก ที่ได้ฉลองแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษ 2 ปีซ้อน กับ 2 สโมสร ในฤดูกาล 2014-15 เขายังได้โอกาสลงเฝ้าเสาให้ทีมสิงห์บลูบ้างนิดหน่อย แต่ในซีซั่นล่าสุดกับทีม "จิ้งจอกสยาม" เจ้าตัวไม่ได้ลงทำหน้าที่เลยแม้แต่นัดเดียว ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมไปแบบฟรีเอเย่นต์ หลังจากเลสเตอร์ ซิตี้ คว้า รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ นายด่านชาวเยอรมัน ที่น่าจะเข้ามากดดันแย่งตำแหน่งมือหนึ่งกับ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ได้ดีกว่าชวาเซอร์ในวัยถึง 43 ปีแล้ว ดูบอลสด
ว่าน สวนไทร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น