5 ปัจจัยที่ดีล "เนย์มาร์"
ซบ "เปแอสเช" จะเป็นจริง
จากการอัพเดทล่าสุด "มาร์ก้า" สื่อชื่อดังของสเปน เผยว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยินดีทุบคลังเป็นสถิติโลก 222 ล้านยูโร เป็นค่าฉีกสัญญากระชากตัว เนย์มาร์ ไปร่วมทีม
กระแสข่าวที่โหมสะพัดอย่างหนัก ในช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นความสนใจครั้งใหม่ เกี่ยวกับซูเปอร์บิ๊กดีลซัมเมอร์นี้อีกครั้ง ความเป็นไปได้จะมีมากน้อยเพียงใด วันนี้เรามีข้อมูลจากสื่อกีฬาออนไลน์ชื่อดัง "Sportskeeda" วิเคราะห์ 5 ปัจจัยที่จะส่งให้ดาวยิงทีมชาติบราซิลย้ายไปค้าแข้งใน ลีก เอิง มาฝากกัน ไปติดตามรายละเอียดกันเลย ดูบอลสด
1. ข้อเสนอ เปแอสเช ยากเกินกว่าที่ เนย์มาร์ และ บาร์เซโลน่า จะบอกปัด
ทีม "เจ้าบุญทุ่ม" มีรายได้เข้าสโมสรสูงเป็นสถิติ 708 ล้านยูโรในซีซั่น 2016-17 แต่เป็นกำไรหลังหักภาษีเพียง 18 ล้านยูโร ซึ่งทำให้สโมสรยังเป็นหนี้สูงถึง 247 ล้านยูโร ขณะที่ปัจจุบันยังต้องควักกระเป๋าจ่ายเม็ดเงินมหาศาลให้ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ต่อสัญญาใหม่พร้อมรับค่าเหนื่อยหลังหักภาษีถึงปีละ 22 ล้านยูโร ดังนั้นสโมสรอาจไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการขายสตาร์ดังแลกกับเงินก้อนโต เพื่อนำไปคว้าแข้งรายอื่น และทำให้ตัวเลขในบัญชีไม่เป็นสีแดง
ฝั่งยักษ์ใหญ่แห่งฝรั่งเศสไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมทุ่มเงินฉีกสัญญา เพราะทัพ "ต่างดาว" ไม่ได้ต้องการขายแข้งรายนี้แต่อย่างใด แต่ "เปแอสเช" รู้ว่ากำลังจะได้ผู้เล่นระดับโลกเข้าสู่ทีม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ด้านการตลาด นอกเหนือจากการช่วยทีมประสบความสำเร็จ ขณะที่การย้ายทีมครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลดีต่อสโมสร แต่ยังดีสำหรับ เนย์มาร์ ที่จะได้รับค่าเหนื่อยมากกว่าที่ได้ในปัจจุบันกับ "บาร์ซ่า" สัปดาห์ละ 290,000 ปอนด์อีกด้วย
2. สลัดพ้นจากร่มเงาบารมีของ เมสซี่
เนย์มาร์ และ เมสซี่ เป็นสหายที่ดีต่อกัน และตั้งแต่การย้ายเข้ามาของ หลุยส์ ซัวเรซ ทำให้สามประสาน "MSN" เล่นร่วมกันได้อย่างลงตัวพา "บาร์ซ่า" ซิวทริปเปิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ในซีซั่น 2014-15 แต่ เนย์มาร์ รู้ว่าเขาไม่มีวันได้เป็นหัวใจสำคัญถ้ายังมี เมสซี่ อยู่ในทีม หรือไม่ก็ต้องรอจนกว่ายอดนักเตะชาวอาร์เจนไตน์ ที่เพิ่งฉลองอายุครบ 30 ปีเต็มเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รีไทร์ไปก่อน
ในเวลานี้หลายฝ่ายมองว่า เนย์มาร์ เป็นแข้งที่ดีที่สุดอันดับ 3 ของโลกถัดจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เมสซี่ ขณะที่ในปี 2015 เขาคว้าอันดับ 3 ในงานแจกรางวัลบัลลงดอร์ แต่ดูเหมือนเขาแค่ขึ้นไปยืนบนเวทีให้ครบคนมากกว่าการเป็นผู้ท้าชิงรางวัลแบบจริงจัง (ได้คะแนนโหวตน้อยกว่า 8 เปอร์เซ็นต์) ดังนั้นการย้ายไปเป็นคนที่สำคัญที่สุดกับ "เปแอสเช" ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
3. อนาคตของ เปแอสเช ดูดีกว่า บาร์เซโลน่า
จุดเริ่มต้นคือตั้งแต่ "กาตาร์ สปอร์ตส์ อินเวสต์เมนต์" กลุ่มทุนเงินหนาจาก กาตาร์ เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมในปี 2011 เปแอสเช มีเป้าหมายในการคว้าทุกแชมป์ และทุ่มเงินเสริมทัพแบบจัดเต็ม แม้จะเสี่ยงต่อการละเมิดกฎยุติธรรมทางการเงินก็ตาม ยักษ์ใหญ่แห่งฝรั่งเศสซิวแชมป์ลีก 4 ปีหลังติดต่อกัน แต่ถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นรายการที่ยังไม่เคยได้ โดยทำผลงานดีสุดแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย และมันกลายเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของทีมในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม เวลานี้แชมป์ ลีก เอิง 6 สมัยพร้อมร่วมวงลุ้นแชมป์ทุกรายการด้วยการย้ายเข้ามาของแข้งชั้นนำในช่วงหลังอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ และ ดานี่ อัลเวส รวมกับแข้งทีมีอยู่แล้วอย่าง ติอาโก้ ซิลวา, มาร์โก แวร์รัตติ และ เอดินสัน คาวานี่ และแน่นอนถ้าได้ เนย์มาร์ เข้ามาเสริมเกมรุกอีกราย จะส่งผลดีทำให้ทีมมีลุ้นคว้าบิ๊กเอียร์ได้อย่างแน่นอน
ในทางตรงกันข้าม บาร์เซโลน่า จำเป็นต้องเสริมทัพครั้งใหญ่ และแข้งใหม่ที่ย้ายเข้ามาในช่วงหลัง อาทิ อันเดร โกเมส และ ปาโบล อัลกาเซร์ ต่างทำผลงานน่าผิดหวัง ขณะที่ยอดแข้งอย่าง อันเดรส อิเนียสต้า เริ่มเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายบนเส้นทางค้าแข้งแล้ว
4. มีผู้เล่นบราซิลหลายรายอยู่ในทีม เปแอสเช
"เอสปอร์เต้ อินเตราติโว่ สื่อบราซิลตีข่าวว่า เนย์มาร์ รู้สึกโดดเดี่ยวในถิ่น คัมป์ นู เพราะมีแข้งเพื่อนร่วมชาติน้อยมาก โดย ราฟินญ่า เป็นแข้งแซมบ้ารายเดียวที่ลงเล่นให้ "ต่างดาว" ชุดใหญ่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ตอน เนย์มาร์ ย้ายเข้าสู่สโมสรช่วงแรก เขามี ดานี่ อัลเวส ที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงและเพื่อนคู่ใจ ก่อนที่ อัลเวส จะอำลาทีมไปอยู่กับ ยูเวนตุส และล่าสุดย้ายร่วมทัพ "เปแอสเช"แล้วในซัมเมอร์นี้
เวลานี้นักเตะแซมบ้า 4 รายในถิ่น ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ได้แก่ ดานี่ อัลเวส, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์กินญอส และ ลูคัส มูร่า ซึ่งต่างเล่นร่วมกับ เนย์มาร์ ในทีมชาติบราซิลทั้งหมด และถ้าหากอดีตแข้ง ซานโตส เลือกย้ายมาฝรั่งเศส เขาจะรายล้อมไปด้วยเพื่อนร่วมทีมที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างกับตอนนี้ที่เขาอยู่กับ บาร์เซโลน่า อย่างชัดเจน
5. ยุติปัญหาเรื่องภาษีในสเปน
ถึงแม้ว่า เนย์มาร์ จะย้ายจาก ซานโตส มาร่วมทัพ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวที่เปิดเผยคือ 57.1 ล้านยูโร แต่ค่าตัวรวมในความเป็นจริงนั่นสูงเกือบ 86.2 ล้านยูโรเลยทีเดียว ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า บริษัท 2 แห่งที่พ่อและแม่ของเขาเป็นเจ้าของได้รับเงินก้อนโต ซึ่งส่งผลให้ต้องจ่ายภาษีเป็นเงินสูงถึง 9.1 ล้านยูโร ด้านอัยการต้องการให้ลงโทษจำคุก เนย์มาร์ เป็นเวลา 21 เดือน อย่างไรก็ตาม จากการที่มีโทษน้อยกว่า 2 ปี ทำให้เจ้าตัวไม่ต้องเข้าไปอยู่ในห้องขัง เพราะไม่เคยทำความผิดในคดีอาญามาก่อน แต่ต้องถูกปรับเป็นเงินก้อนโตแทน
เนย์มาร์ อาจมีหรือไม่มีส่วนรู้เห็นกับประเด็นอื้อฉาวที่เกิดขึ้น แต่เรื่องราวดังกล่าวทำให้เขาและคุณพ่อรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาด และอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ เนย์มาร์ อาจตัดสินใจย้ายไปโชว์ฝีเท้าใน ลีก เอิง ฝรั้งเศสกับบิ๊กทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็เป็นไปได้ ดูบอลสด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น