ผีแดง"เบอร์ 9" ในยุคพรีเมียร์ลีก (ตอน1)
ตั้งแต่ฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนจากดิวิชั่น 1 มาเป็นพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1992-93 จนปัจจุบัน (23ปี) เจ้าของเสื้อเบอร์ 9 ของทีมปีศาจแดงคือใครบ้าง เราจะพาแฟนผีแดงที่ชอบดูบอลออนไลน์ไปรู้จักกันครับ
1. ไบรอัน แม็คแคลร์ (1987-1998)
ผลงานก่อนย้ายมาปีศาจแดง
มาเธอร์เวลล์ - 40 นัด 15 ประตู
กลาสโกว์ เซลติก - 145 นัด 99 ประตู
ผลงานในสีเสื้อปีศาจแดง - 355 นัด 88 ประตู
ผลงานยิงระเบิดในลีกวิสกี้ โดยเฉพาะในฤดูกาล 1986-87 ที่ครองตำแหน่งดาวซัลโวจากการยิงไป 35 ประตูกับม้าลายเขียวขาว ทำให้เขาถูกเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน ทุ่มเงินถึง 800,000 ปอนด์คว้าตัวมาร่วมทีมในซัมเมอร์ปี 1987 ซึ่งเป็นค่าตัวที่แพงโขในเวลานั้น และกลายกุญแจดอกสำคัญในความสำเร็จยุคแรกๆ ของปีศาจแดงภายใต้การคุมทีมของโคตรกุนซือชาวสก็อตแลนด์ เขาคือนักเตะผีแดงคนแรกในรอบหลายสิบปีที่ทำประตูในลีกได้เกิน 20 ลูกต่อหนึ่งฤดูกาล หลังซัดไป 24 ประตูในซีซั่นแรก ซึ่งคนสุดท้ายที่ทำได้คืออดีตปีกระดับตำนานของทีมอย่าง จอร์จ เบสต์
หลังจากฟุตบอลลีกสูงสุดอังกฤษเปลี่ยนชื่อเป็นพรีเมียร์ลีกในปี 1993 แม็คแคลร์ก็ถูกเปลี่ยนบทบาทจากศูนย์หน้า ถอยต่ำลงมาเป็นมิดฟิลด์ เพื่อเปิดทางให้คู่หัวหอกที่สดใหม่กว่าอย่างมาร์ค ฮิวส์ และ เอริก คันโตน่า ประจำการแทน กลายเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผลงานทำประตูของเขาลดน้อยลง ก่อนจะส่งต่อเสื้อเบอร์ 9 ให้คนที่เหมาะสมกับการเป็น "ดาวยิง" มากกว่าเจ้าตัว ดูบอลออนไลน์
2. แอนดี้ โคล (1995-2001)
ผลงานก่อนย้ายมาปีศาจแดง
บริสตอล ซิตี้ - 41 นัด 20 ประตู
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด - 70 นัด 55 ประตู
ผลงานในสีเสื้อปีศาจแดง - 195 นัด 93 ประตู
ผลงานยิงกระจุยกระจายกับทีมสาลิกาดง ทำให้ป๋าเฟอร์กี้ตัดสินทุ่มเงิน 6 ล้านปอนด์ พ่วงคีธ กิเลสพี ดาวรุ่งของทีมให้นิวคาสเซิ่ล คว้าตัวโคลมาร่วมทีมเมื่อต้นปี 1995 ซึ่งเป็นสถิติย้ายทีมสูงสุดในอังกฤษเวลานั้น เบอร์เสื้อครั้งแรกที่ใส่คือ 17 ก่อนจะเปลี่ยนมาใส่เบอร์ 9 ในซีซั่น 1996-97 แทนที่ไบรอัน แม็คแคลร์ ที่โยกไปใส่เบอร์ 13 เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ "คิง โคล" คือศูนย์หน้าตัวหลักของทีมในยุครุ่งเรือง โดยเฉพาะการจับคู่กับ ดไวท์ ยอร์ค ช่วงปี 1998-2001 ทั้งคู่ได้รับการยกย่องให้เป็นหน้าคู่ที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการคว้าสามแชมป์ในปี 1999
ความเปลี่ยนแปลงคือเรื่องปกติ ในฤดูกาล 2001-02 การเข้ามาของ รุด ฟาน นิสเตอรอย และ ฮวน เวรอน ทำให้ป๋าเฟอร์กี้ต้องปรับแท็กติกมาใช้หน้าเป้าคนเดียว เขาจึงถูกปล่อยตัวไปให้แบล็คเบิร์นด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ โคลคือยอดดาวยิงที่ติดทำเนียบดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกอีกด้วย จากผลงาน 187 ประตู อยู่ในอันดับ 3 เป็นรองแค่เวยน์ รูนี่ย์ และ อลัน เชียร์เรอร์ เท่านั้น
3. หลุยส์ ซาฮา (2004-2008)
ผลงานก่อนย้ายมาปีศาจแดง
ฟูแล่ม - 117 นัด 53 ประตู
ผลงานในสีเสื้อปีศาจแดง - 86 นัด 28 ประตู
หัวหอกเจ้าของฉายา "ปลาดุก" ดังระเบิดในระดับแชมป์เปี้ยนชิพกับฟูแล่ม ด้วยการซัดไป 27 ประตู คว้าตำแหน่งดาวซัลโว พร้อมพาต้นสังกัดเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาล 2001เป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ ฟอร์มของเขาโดนใจป๋าเฟอร์กี้เป็นอย่างมากในเกมนัดเปิดซีซั่น 2001-02 ที่ซาฮาเหมา 2 ตุง แต่รุด ฟาน นิสเตอรอย ก็เหมา 2 เช่นกันช่วยให้ "ปีศาจแดง" เฉือนชนะไปหวุดหวิด 3-2 ผลงานของเขาในครึ่งแรกของซีซั่น 2003-04 ที่ยิงไป 13 ประตู ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มเงิน 12.4 ล้านปอนด์คว้าตัวมาร่วมทีมในที่สุด
ซาฮา ยิงได้ทันทีตั้งแต่เกมแรกที่ลงเล่นให้ปีศาจแดง ก่อนจะทำผลงานยิง 7 ประตูจาก 12 นัด ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยผลงานยอดเยี่ยมที่สุดของเขาคือในฤดูกาล 2006-07 ที่ลงสนามไป 24 นัด ซัลโวไป 8 ประตู พาทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ แต่เพราะปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้าอย่างเรื้อรัง เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จกับทีมเท่าไหร่ ในท้ายที่สุดก็โดนขายให้เอฟเวอร์ตันหลังจบฤดูกาล 2007-08
4. ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (2008-2012)
ผลงานก่อนย้ายมาปีศาจแดง
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น - 154 นัด 69 ประตู
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ - 70 นัด 27 ประตู
ผลงานในสีเสื้อปีศาจแดง - 108 นัด 48 ประตู
เขาคือผู้ครอบครองเสื้อหมายเลข 9 คนสุดท้ายในยุคของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน และเป็นเบอร์ 9 คนเดียวที่เคยได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีก ในฐานะนักเตะปีศาจแดง ด้วยการซัดไป 20 ประตู ในซีซั่น 2010-11 แต่ภาพที่สาวกเร้ดเดวิลล์จดจำเขาได้ดี ไม่ใช่การถล่มประตูมากมาย แต่คือลีลาการเล่นและเทคนิคที่แพรวพราวซึ่งโชว์ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ดูบอลออนไลน์
ผลงานอันลือลั่นในความทรงจำของเด็กผี คือการยิงแฮตริคประวัติศาสตร์ ช่วยให้ทีมชนะลิเวอร์พูลไป 3-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเดือนกันยายน ปี2011 และการเหมายิงคนเดียว 5 ตุงในเกมถล่มแบล็คเบิร์น โรเวอร์สไป 7-1 ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน แต่สุดท้ายเขาก็ต้องย้ายออกจากทีมไปอยู่กับฟูแล่ม ด้วยค่าตัวเพียง 5 ล้านปอนด์ เพราะการเข้ามาของศูนย์หน้าตัวใหม่นาม โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ นั่นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น