ทวีปเดียวกัน! 10 แข้งเอเชียค่าตัวแพงสุด (ตอนจบ)
จุดสนใจของตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้หนีไม่พ้นข่าวของ พอล ป๊อกบา มหากาพย์ที่รอบทสรุปเร็วๆนี้ สถิตินักเตะเอเชียค่าตัวแพงสุดมีใครบ้างนั้น ได้ติดตามกับเว็บดูบอลสดไปแล้วเมื่อครั้งก่อน วันนี้เรามาติดตามข้อมูลที่เหลือกันเลยครับ
5. ซอง เฮือง มิน (ปี 2013)
ย้ายจาก ฮัมบูรก์ ไป ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ค่าตัว : 10 ล้านยูโร (ประมาณ 400 ล้านบาท)
ไม่ได้เริ่มต้นค้าแข้งในประเทศบ้านเกิด แต่เข้ามาเป็นนักเตะอะคาเดมี่ของฮัมบูร์กตอนอายุ 16 ปี จากนั้นก็เริ่มต้นกับทีมสมัครเล่นของทีม ทำผลงานโดดเด่นจนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2010 พร้อมได้สัญญา 4 ปี ผลงาน 3 ประตู จาก 14 นัดของเด็กวัยเพียง 18 ปี ที่เล่นในลีกสูงสุดของเยอรมัน ทำให้คาดการณ์ว่าสามารถพัฒนาได้อีกเยอะ ในฤดูกาลที่สองทำได้ 5 ประตู จนในซีซั่น 2012-13 แข้งเลือดโสมขาวรายนี้ยิงได้ถึง 12 ประตู จาก 33 เกม แจ้งเกิดในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตามองของบุนเดสลีกา จนทีมห้างขายยายอมควักเงิน 10 ล้านยูโรกระชากตัวไปร่วมทีม ดูบอลสด
นักเตะรายนี้กลายเป็นตัวหลักของทีมได้ทันที ทั้งการเล่นในลีกและบอลยุโรป โดยปีแรกซัดในลีกไป 17 ประตู และในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2014-15 ทำได้ 5 ประตูจาก 10 เกม ช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนแพ้ทีมตราหมีไปในการดวลจุดโทษอย่างน่าเจ็บใจ
4. ชินจิ คากาวะ (ปี 2012)
ย้ายจาก ดอร์ทมุน ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ค่าตัว : 16 ล้านยูโร (ประมาณ 640 ล้านบาท)
เกิดมาเพื่อเป็นนักฟุตบอลอย่างแท้จริง เขาเริ่มต้นการเรียนรู้กีฬาชนิดนี้ตั้งแต่ 5 ขวบ กับ มาริโน่ ฟุตบอล คลับ จนกระทั่งอายุ 10 ปี ก็โยกไปอยู่ที่โกเบ ฟุตบอล คลับ ตามด้วย เอฟซี มิยากิ บาร์เซโลน่า จนกระทั่ง เซเรโซ่ โอซาก้า เห็นถึงความสามารถก็ไม่ลังเลที่จะคว้าตัวเด็กหนุ่มน้อยในวัย 17 ปีมาร่วมทีม กลายเป็นแข้งคนแรกของญี่ปุ่นที่เซ็นสัญญาอาชีพตั้งแต่เรียนไฮสกูล จากเด็กน้อยที่ทำได้แค่นั่งดูในปีแรก ก้าวขึ้นมาเป็นตัวรุกหมายเลข 1 ของทีมในปีที่สอง ผลงานพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2009 ที่ยิงกระจายถึง 27 ประตู จาก 44 เกม ช่วยให้ทีมคว้ารองแชมป์เจทู และขึ้นสู่ลีกสูงสุดพ่วงรางวัลดาวซัลโวมาครองได้อีกด้วย
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอดทีมเมืองเบียร์ ตัวเขามาร่วมทีมและไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวนาน พิสูจน์ได้จากผลงานซัด 12 ประตูจาก 28 เกมรวมทุกรายการ ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกามาครองได้สำเร็จ และที่ยอดเยี่ยมกว่านั้น คือการยิงไปถึง 17 ประตูในซีซั่นถัดมา พาทีมเถลิงแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัยซ้อน จนทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมทุ่มเงิน 16 ล้านยูโร ดึงตัวมาร่วมทีม กลายเป็นแข้งซามูไรรายแรกของสโมสร ผลงานกับ ''ปีศาจแดง'' ถือว่าไม่ธรรมดา โดยเฉพาะการซัดแฮตทริกใส่นอริช ซิตี้ ทำให้เขาเป็นแข้งเอเชียคนแรกที่ยิง 3 ประตูในเกมเดียวบนเวทีพรีเมียร์ลีก น่าเสียดายหลังจากที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือจากทีมไปในปี 2013 เดวิด มอยส์ ที่เข้ามารับงานแทนดูจะไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวสตาร์จากแดนอาทิตย์อุทัย ก่อนถูกปล่อยตัวกลับไปเล่นทีมเสือเหลืองอีกครั้งจนปัจจุบัน
3. ฮิเดโตชิ นากาตะ (ปี 2000)
ย้ายจาก เปรูจา ไป โรม่า
ค่าตัว : 22 ล้านยูโร (ประมาณ 880 ล้านบาท)
นักเตะจากภูมิภาค "เอเชีย" ในยุคบุกเบิกเดินทางไปเล่นในยุโรป เขาคือแข้งรายที่ 2 ของญี่ปุ่นที่ย้ายไปค้าแข้งในกัลโช่ เซเรีย อา โดยย้ายไปร่วมทีมเปรูจาในปี 1998 ต่อจาก คาซูโยชิ มิอูระ ที่ไปเล่นกับเจนัวก่อนหน้านั้น
แจ้งเกิดทันทีตั้งแต่ปีแรกด้วยการซัลโวไป 10 ประตู ในยุคที่ลีกมะกะโรนีรุ่งเรืองสุดขีด ก่อนที่โรม่าจะยอมทุ่มงบถึง 22 ล้านยูโรดึงไปร่วมทีม นากาตะได้ประสานงานร่วมกับสุดยอดแข้งระดับของโลกมากทมาย อันได้แก่ ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ, กาเบรียล บาติสตูต้า, เอเมอร์สัน, มาร์กอส อัสซุนเซา, คาฟู, อัลดาเอียร์ และ แว็งซ็องต์ ก็องเดล่า โดยซีซั่นแรกในยูนิฟอร์มหมาป่าภายใต้การคุมทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ โรม่าคว้าสคูเด็ดโต้มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเขาเคยตะบันระยะไกลกว่า 30 หลา ผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ สมัยที่เฝ้าเสาให้ยูเวนตุสมาแล้ว
2. ฮิเดโตชิ นากาตะ (ปี 2001)
ย้ายจาก โรม่า ไป ปาร์ม่า
ค่าตัว : 26 ล้านยูโร (ประมาณ 1,040 ล้านบาท)
ค้าแข้งกับทีมหมาป่าได้แค่ปีเดียว เขาก็ถูกขายให้ปาร์ม่า ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 26 ล้านยูโร เลย นับเป็นตัวเลขสูงสุดทำลายสถิติของตัวเองในห้วงเวลาเพียง 1 ซีซั่นเท่านั้น โดยเจ้าตัวออกมาเปิดเผยภายหลังว่า ไม่ค่อยลงรอยกับเจ้าชายหมาป่า ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ จนเป็นเหตุให้โดนปล่อยตัวออกมา อย่างไรก็ตาม นากาตะก็ได้อยู่กับทัพจัลโล่บลูยุคที่ดีที่สุดยุคหนึ่ง โดยเจ้าตัวมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย มาครองได้ในเกมนัดชิงดำกับยูเวนตุส
เกมเลกแรกที่เดลเล่ อันปิ ในขณะที่ ''ม้าลาย'' นำอยู่ด้วยสกอร์ 2-0 นากาตะมาพังประตูในช่วงทดเจ็บให้ทีมตีไข่แตกได้ประตูทีมเยือนอันล้ำค่ากลับมา และเกมที่สองในบ้าน ปาร์ม่าก็เอาชนะได้ 1-0 รวมผล 2 นัดเสมอกัน 2-2 แต่คว้าแชมป์ซีซั่น 2002-03 ไปครองด้วยกฎประตูทีมเยือน แต่หนึ่งปีหลังจากนั้น ผลงานของเขาก็ดร๊อปลงเรื่อยๆ จนสโมสรที่กำลังอยู่ในช่วงถังแตกปล่อยให้โบโลญญ่ายืมตัวไปใช้งาน และถูกปล่อยต่อให้ฟิออเรนติน่า ผลงานกับทีมม่วงมหากาฬนั้น เขาตีนบอดยิงประตูไม่ได้เลยจากการลงสนาม 23 นัด สุดท้ายก็โยกมาค้าแข้งในอังกฤษกับโบลตัน เมื่อฤดูกาล 2005-06 โดยทำได้เพียง 1 ประตู จาก 32 นัด และตัดสินใจแขวนสตั๊ดหลังจบซีซั่นนั้น
1. ซอง เฮือง มิน (ปี 2015)
ย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ไป ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
ค่าตัว : 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,200 ล้านบาท)
สถิติแข้งเอเชียค่าตัวแพงที่สุดของ ฮิเดโตชิ นากาตะ ที่ยืนยาวมาถึง 14 ปี ถูกทำลายลงเมื่อปีที่แล้วด้วยนักเตะที่ชื่อ ซอง เฮือง มิน หลังจากท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ทุ่มงบ 30 ล้านยูโร ให้ทีมห้างขายยาเป็นค่าตัวของศูนย์หน้าวัย 23 ปี แม้ว่าตัวเลขที่ยอมจ่ายจะดูแพงไปเกินไป แต่หากพิจารณาจากอายุการใช้งานที่เหลืออีกยาวนานถือว่ายังคุ้มค่า บวกกับชื่อชั้นและผลงานที่ผ่านมาทำให้ถูกยกย่อง ว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นแข้งชาวเอเชียที่ดีที่สุด ก็พอจะทำให้สาวกไก่เดือยทองสบายใจขึ้นมาได้บ้าง ดูบอลสด
ซีซั่นแรกกับการลงสนามเป็นตัวจริง 13 เกม และเป็นสำรอง 15 เกม ดูเหมือนว่าโอกาสโชว์ฝีเท้าจะน้อยไปหน่อย ทำให้ยิงได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น แต่ก็มีส่วนช่วยต้นสังกัดเบียดแย่งแชมป์ไปจนถึงโค้งสุดท้าย และจบที่อันดับ 3 คว้าโควต้าไปเล่นถ้วยใหญ่ยุโรปได้อีกครั้ง ต้องติดตามกันสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงว่า แข้งพลังโสมขาวรายนี้จะพัฒนาผลงานได้ดีแค่ไหน โอกาสลงสนามน่าจะมีมากขึ้นเมื่อมีโปรแกรมสโมสรยุโรปเข้ามา เชื่อได้ว่าหากได้ลงสนามต่อเนื่องเหมือนครั้งเล่นในเยอรมัน เขาจะสามารถผลิตสกอร์ให้แฟนบอลในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน ได้ชื่นใจอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น