5 แข้งดังรอพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกซีซั่นใหม่
เหลือเวลาอีกประมาณ 10 วัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษก็จะเริ่มขึ้น วันนี้เว็บดูบอลสดขอเสนอเรื่องของแข้งดังฟอร์มแย่ 5 รายที่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ เพื่อความอยู่รอดในการค้าแข้งบนแผ่นดินผู้ดีต่อไป ไปรู้จักพวกเขากันเลยครับ
เป็นเรื่องชินตาแฟนบอลเสียแล้วในระยะหลัง สำหรับอดีตหัวหอกของทีมสาลิกาดง ที่ไม่ค่อยได้โอกาสลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก เพราะเขาเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมาโดยตลอด นอกจากนี้ ศูนย์หน้าที่เคยมีค่าตัวสูงถึง 35 ล้านปอนด์ ยังมีปัญหานอกสนาม ทั้งเรื่องสไตล์การใช้ชีวิตและนิสัยชอบดื่ม ชอบเที่ยว อย่างไรก็ตาม แข้งวัย 27 ปี ถึงเวลาต้องจริงจังกับชีวิตค้าแข้งเสียที เพราะตลอดชีวิตค้าแข้งที่ผ่านมา เขาได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแค่ 143 นัด ทั้งๆที่ทุกสโมสรที่ค้าแข้งด้วยนั้น เขาเป็นผู้เล่นตัวหลักทั้งหมด ซึ่งเมื่อลองเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมสังกัดปัจจุบันอย่าง อารอน เครสเวลล์ ที่อายุน้อยกว่าปีกว่าๆ แต่แบ็คซ้ายฟอร์มดีรายนี้ ลงสนามเป็นตัวจริงมากกว่าแคร์โรลล์เกือบหนึ่งเท่าเลยทีเดียวคาดว่าหากอดีตหอกหงส์แดงยังไม่ปรับปรุง เรื่องการรักษาความฟิตและพฤติกรรมนอกสนามได้ รับรองว่าอนาคตของอดีตหนึ่งในความหวังทีมชาติอังกฤษ คงมีแต่ถอยหลังลงคลอง และอย่างมากก็จะถูกเรียกว่า “หัวหอกแพลนบี” ตลอดไป ดูบอลสด
เปโดร โรดิเกวซ (เชลซี)
จากแข้งดังที่มากมายด้วยเกียรติยศ โดยคว้าทั้งแชมป์โลก แชมป์ยุโรปกับทีมชาติ อีกทั้งประสบความสำเร็จระดับสโมสร คว้าทุกโทรฟี่กับยอดทีมแห่งสเปนอย่างบาร์เซโลน่ามาแล้ว และสร้างสถิติเป็นแข้งคนเดียวในโลก ที่ยิงประตูได้ในทุกรายการที่ลงเล่นในซีซั่นเดียว แต่เขากลับมาล้มเหลวบนเกาะอังกฤษตั้งแต่ปีแรก ต้นเหตุของการย้ายมาเมืองผู้ดี เกิดจากการที่เขาถูก เนย์มาร์ และ หลุยส์ ซัวเรซ แย่งตำแหน่งตัวจริงไป และย้ายสู่ทีมสิงห์บลูในช่วงผิดเวลา เนื่องจากตอนนั้นสถานการณ์ของทีมและ อดีตกุนซืออย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่ค่อยดี สุดท้ายฟอร์มของแข้งสแปนิชรายนี้ก็ย่ำแย่ตามเพื่อนร่วมทีม
และด้วยความที่เปโดร เป็นที่รู้จักค่อนข้างช้า (ยิงประตูแรกให้ทีมชุดใหญ่ของบาร์ซ่าตอน 22 ปี) ทำให้หลายคนคิดว่าเขายังอายุน้อย แต่ความเป็นจริงแล้ว อดีตแข้งบาร์เซโลน่ารายนี้อายุ 28 ปีแล้ว ซึ่งหากเขายังไม่สามารถคืนฟอร์มเทพเหมือนยุคที่เล่นในสเปนได้ อาจจะหลุดจากทีมในระยะยาว ภายใต้การคุมทีมของกุนซือป้ายแดง อันโตนิโอ คอนเต้ ก็เป็นได้
มารูยาน เฟลไลนี่
(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
นับตั้งแต่ย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม “ปีศาจแดง” ข่าวเรื่องพฤติกรรมแย่ๆในสนามของเขา มีมากกว่าฟอร์มดีในสนาม อย่างไรก็ตาม ผลงานของมิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยี่ยมรายนี้ในช่วงก่อนหน้านี้ จัดว่าเข้าขั้นยอดนักเตะคนหนึ่งของเวที "พรีเมียร์ลีก" เลยทีเดียว เขาสร้างชื่อเป็นที่รู้จักสมัยอยู่กับเอฟเวอร์ตันในตำแหน่งมิดฟิลด์ โดยเขาสามารถพักบอล ชงบอล และทำประตูได้บ่อยครั้ง จนหลายคนลืมไปแล้วว่า ช่วงแรกที่มาอยู่อังกฤษ แข้งหัวฟูรายนี้คือมิดฟิลด์ตัวรับ และเมื่อบอสรักอย่าง เดวิด มอยส์ ย้ายไปรับงานที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฟลไลนี่ก็ถูกดึงตัวมาอยู่ด้วยกัน แต่เขากลับโชว์ฟอร์มเก่งไม่ออกอย่างที่แฟนบอลคาดหวังไว้ ทั้งในยุคของมอยส์และฟานกัล แม้จะมีหลายเกมที่เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยม แต่ฟอร์มโดยรวมก็ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ แถมโดนใบแดงหรือโดนแบนอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ปีศาจแดงยุคใหม่ของโชเซ่ มูริณโญ่ ยังมีเขาอยู่ในแผนการทำทีม ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสพิสูจน์ตัวเองครั้งสุดท้าย หากไม่อยากกระเด็นออกจากทีม
แอนดี้ แคร์โรลล์ (เวสต์แฮม)
อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน
(อาร์เซน่อล)
เขาคือแข้งอะคาเดมี่ของทีมนักบุญ ที่จะอายุครบ 23 ปีเร็วๆนี้ และยังมีเวลาอีกมากบนเส้นทางสายนักเตะอาชีพ เพียงแต่คำถามก็คือ เขาปล่อยของที่มีออกมาสู่สายแฟนบอลหมดแล้วหรือ เพราะที่ผ่านมา แข้งดีกรีทีมชาติอังกฤษ ไม่สามารถรักษาฟอร์มเก่งสมัยที่สร้างชื่อให้ตัวเองเมื่อ 5 ปีที่แล้วได้ ฟอร์มอันเปรี้ยงปร้างของดาวรุ่งวัยเพียง 18 ปี ซึ่งเกิดขึ้นในเกมถ้วยยุโรปกับทีมปีศาจแดงดำ
ซึ่งในเวลานี้ สาวกกูนเนอร์จำนวนมากก็ยังตอบไม่ได้เลยว่า จุดเด่นที่สุดของเขาคืออะไร แชมเบอร์เลนคืออดีตดาวรุ่งที่จ่ายบอลได้ แย่งบอลเป็น เก็บบอลได้ แต่น่าเสียดายที่ไปไม่สุดสักทาง นอกจากนี้แม้เขาสามารถเป็นทั้งมิดฟิลด์หรือตัวริมเส้นได้ แต่ก็ไม่มีตำแหน่งใดที่เขาทำได้ดีอย่างสม่ำเสมอ โดยเมื่อถูกสั่งให้เล่นปีก ก็ไม่สามารถเล่นเหมือนปีกธรรมชาติที่กระชากลากเลื้อยถึงเส้นหลังแล้วครอสบอลเข้ามา หรือจะเล่นแบบปีกสมัยใหม่ที่ลากตะลุยจากอีกฝั่งเข้าในมายิงประตูก็ทำไม่ได้ เมื่อปรับบทบาทให้เป็นเพลย์เมคเกอร์ ก็ขาดความพริ้วและการจ่ายบอลแม่นยำ และที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเล่นตรงไหน แชมเบอร์เลน ก็ขาดสิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นแข้งเกมรุกนั่นคือ การสังหารประตู เพราะสถิติ 7 ประตูจาก 5 ซีซั่นในพรีเมียร์ลีกบ่งบอกทุอย่างได้ชัดเจน ต้นเหตุของฟอร์มดิ่งเหวคือ อาการบาดเจ็บที่รบกวนเจ้าตัวมาตลอด หวังว่าด้วยอายุที่ยังน้อย เขาจึงมีเวลาอีกนานบนสังเวียนลูกหนัง รอเพียงหาจุดเปลี่ยนและคืนฟอร์มเดิมเก่งให้ได้ เขาจะกลายเป็นกำลังสำคัญในระยะยาวให้ทีมปืนใหญ่ได้อย่างแน่นอน
5. ซามีร์ นาสรี่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ทุกครั้งที่ทีมเรือใบสีฟ้าฟอร์มตกต่ำ แฟนบอลก็จะอ้างเหตุผลว่า พวกเขาขาดตัวหลักอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ กับ แวงซองต์ กอมปานี โดยแข้งที่แทบจะถูกลืมไปแล้ว เพราะได้ลงสนามน้อยมากคือกองกลางเลือดเฟร้นช์รายนี้ ทั้งๆที่เขามีบทบาทกับเกมเสมอ ไม่น้อยไปกว่า 2 คนที่ได้กล่าวไป เห็นได้ชัดเจนในซีซั่น 2013-14 ที่ทีมยิงได้ถึง 102 ประตู พร้อมกับคว้าแชมป์ลีกได้นั้น เขาคือกุญแจสำคัญในเกมรุกของทีมเรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างแท้จริง ดูบอลสด
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลที่แล้ว แข้งรายนี้โชคร้ายเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน และเมื่อกลับมาลงสนามก็ทำได้ไม่เหมือนเดิม จนทำให้มีข่าวว่าเขาอาจถูกปล่อยออกจากทีม แต่ ณ เวลานี้ มีความเป็นไปได้ที่เขาจะอยู่กับทีมต่อ เพราะสไตล์การเล่นที่ใกล้เคียงกับ อันเดรส อิเนียสต้า ทำให้กุนซือป้ายแดงอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องการคืนฟอร์เก่งให้เขาเป็นอิเนียสต้าแห่งถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ก็เป็นได้ ต้องคอยดูกันว่าในฤดูกาลใหม่นี้ เขาจะพิสูจน์ตัวเองเพื่อโอกาสอยู่กับทีมต่อไปได้มากน้อยเพียงใด
ว่าน สวนไทร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น