ไปได้ดี! 5 อดีตแข้งผีฟอร์มเปรี้ยงหลังลาทีม
เกมยูโรป้า ลีก นัดล่าสุดของ "ปีศาจแดง" ที่เปิดบ้านชนะ เฟเนร์บาห์เช่ 4-1 เป็นการกลับเยือนบ้านรังเก่าอีกครั้งของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อดีตหัวหอกขวัญใจสาวกเร้ดเดวิลล์ ดูบอลออนไลน์
เขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เพราะเคยช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 มาแล้ว เมื่อลาทีมไปค้าแข้งในลีกตุรกีเมื่อปี 2015 ทำผลงานยิงไป 16 ประตูจาก 31 นัดช่วยให้ต้นสังกัดปัจจุบันคว้ารองแชมป์ลีกได้ในซีซั่นที่แล้ว แต่กระนั้น "อาร์วีพี" ก็ไม่ใช้อดีตแข้งผีคนเดียวที่โบกมือลาทีมไปประสบความสำเร็จกับทีมใหม่ สื่อชื่อดังของอังกฤษ "เทเลกราฟ" ได้รวบรวม 5 ผู้เล่นที่ไปได้ดีหลังเก็บกระเป๋าออกจาก "โรงละครแห่งความฝัน" โดยเริ่มต้นตั้งแต่การประกาศวางมือของบรมกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อปี 2013 เป็นต้นมา
ปาทริซ เอวร่า
(ยูเวนตุส : ปี 2014)
หลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย รวมทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ สโมสรอีกอย่างละรายการ ตลอด 8 ปีที่รับใช้ทัพ "ปีศาจแดง" แต่เกียรติยศ และความสำเร็จจะยังเข้ามาสู่อ้อมอกของแนวรับชาวฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง เมื่อเขาคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ และ โคปปา อิตาเลีย 2 ครั้งล่าสุด แม้จะผิดหวังได้แค่รองแชมป์ ยูซีแอล เมื่อพ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2015 ก็ตาม แต่ภาพรวมหลังลารัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปค้าแข้งในอิตาลีของเขาก็ถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว ดูบอลออนไลน์
แดนนี่ เวลเบ็ค
(อาร์เซน่อล : ปี 2014)
แม้จะเป็นลูกหม้อและเติบโตขึ้นมาในเมืองแมนเชสเตอร์ แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่กุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล จะไม่โละทิ้งศูนย์หน้ารายนี้ออกจากทีม โดยปล่อยตัวให้ย้ายไปร่วมทัพคู่อริร่วมลีกอย่าง "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ถึงจะยิงได้แค่ 13 ประตู จากการลงสนาม 49 นัดตลอด 2 ซีซั่นแรกที่อยู่กับทัพ "กันเนอร์ส" อีกทั้งเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเข่าจนต้องผ่าตัดพักยาวในฤดูกาลนี้ แต่สิ่งที่สาวกยูไนเต็ด ไม่มีวันลืมคือการโดนดาวยิงวัย 25 ปี ซัดประตูชัยช่วยให้ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ บุกมาคว้าชัยถึง "โรงละครแห่งความฝัน" ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่งผลให้ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จในบั้นปลายอีกด้วย
ราฟาเอล ดา ซิลวา
(โอลิมปิก ลียง : ปี 2015)
เมื่อ "ป๋าเฟอร์กี้" ประกาศรีไทร์คุมทีมไป อนาคตของแบ็คชาวบราซิเลี่ยนก็มืดมนทันทีในยุคของ เดวิด มอยส์ และ หลุยส์ ฟาน กัล ตามไปด้วย อีกทั้งเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานต่อเนื่อง สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่หนักขึ้นอีก ก่อนจะตัดสินใจอำลาทีมออกมาค้าแข้งกับ "โอแอล" โอลิมปิก ลียง เมื่อซีซั่นก่อน แม้จะไร้โทรฟี่ติดมือตลอดระยะเวลาที่อยู่ทีมดังแดนน้ำหอม แต่การได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนสำคัญในการพาต้นสังกัดคว้ารองแชมป์ลีก พร้อมตั๋วลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก ในยุคที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ครองความยิ่งใหญ่ในประเทศ ก็ถือเป็นการประสบความสำเร็จที่น่าพอใจแล้วสำหรับแข้งรายนี้
อังเคล ดิ มาเรีย
(ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : 2015)
เขาคือแข้งค่าตัวแพงที่สุดของ "ปีศาจแดง" ก่อนการกลับมาของ พอล ป็อกบา ซึ่งแนวรุกเทคนิคสูงชาวอาร์เจนไตน์ก็ออกสตาร์ทได้ดีในช่วงแรก ทั้งยิงและแอสซิสต์มากมาย แต่ปัญหาสุดคลาสสิกของแข้งจากลาตินคือ การปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในอังกฤษทำได้ยาก แถมเจ้าตัวยังเจอโจรขึ้นบ้านทั้งที่ยังพักผ่อนอยู่ในนั้นด้วย เลยส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจมากพอสมควร จนในที่สุดก็ตัดสินใจอำลาทีมไปแบบไม่สวยนัก โดยย้ายมาอยู่กับ "เปแอสเช" ยอดทีมแห่งยุคนี้ของฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆของเขา เพราะสามารถประสบความสำเร็จช่วยทีมคว้าทุกรายการในดินแดนน้ำหอมตลอดฤดูกาลที่แล้ว
ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
(ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น : ปี 2015)
แข้งเจ้าของฉายา "ถั่วน้อย" คืออดีตซูเปอร์ซับในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่มักลงมาพลิกสถานการณ์ให้ "ปีศาจแดง" ได้อยู่เสมอ นอกจากนี้เจ้าตัวยังเคยบอกว่า รักการค้าแข้งใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นอย่างมาก และน่าจะได้อยู่กับสโมสรอย่างจริงจังนานกว่า 6 ซีซั่นด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล เท่านั้นแหล่ะ ชีวิตเลยพลิกผันต้องย้ายไปอยู่กับ รีล มาดริด แบบยืมตัวในปี 2014
อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณภาพของดาวยิงทีมชาติเม็กซิโก เขาก็ผลิตสกอร์ให้ "ราชันชุดขาว" ได้ 9 ลูก จาก 33 นัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงสนามในฐานะตัวสำรอง ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว แม้จะไม่ได้เซ็นมาอยู่ใน ซานติอาโก้ เบร์นาบิว แบบถาวรในปีต่อมา แต่ "ชิชาริโต้" ก็น่าจะมีความสุขกับการเล่นให้ "ห้างขายยา" มากเลยทีเดียว พิสูจน์ได้จากการได้เป็นลงสนามเป็นตัวจริงในฐานะตัวหลักของยอดทีมเมืองเบียร์ และก็ตอบแทนความไว้ใจของต้นสังกัดด้วยจำนวนประตูที่ทำได้ถึง 33 ลูก จากการลงสนาม 50 นัดในทุกรายการตลอด 2 ซีซั่นที่ผ่านมา
...ว่าน สวนไทร...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น